กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--สวทช.
ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) จัดสัมมนา "อวกาศ : ขุมทรัพย์แห่งมวลมนุษยชาติ Space : Infinite Assets for All Humankind" เพื่อเผยแพร่โครงการทดลองในอวกาศและสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง National Space Exploration (NSE) ที่ สวทช. และ สทอภ. ดำเนินการสนับสนุนภารกิจด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอวกาศของประเทศ ตามแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อวกาศแห่งชาติ ปี 2560 - 2579 แก่นักวิจัยและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทุกแขนงสาขาวิชาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ พร้อมปลุกกระแสและสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาด้านอวกาศแก่คนในประเทศ ตลอดจนเป็นเวทีประชุมหารือระหว่างนักวิจัยและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของประเทศด้านการสำรวจอวกาศ และการทดลองในอวกาศ เพื่อนำประโยชน์สูงสุดสู่มวลมนุษยชาติ โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การพัฒนาคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตามแนวพระราชดำริ"
ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สทอภ. กล่าวว่า "ปัจจุบันการสำรวจอวกาศและการทดลองต่างๆ ในอวกาศเป็นสิ่งสำคัญในศึกษาและเรียนรู้ปรากฏการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถพบหรือสร้างได้บนพื้นโลก เช่น การปลูกผลึกที่สามารถเติบโตได้ในทุกทิศทาง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนายาและเวชภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือคุณสมบัติของของไหลที่เปลี่ยนไปเมื่อแรงโน้มถ่วงลดลง ในอดีตประเทศไทยยังไม่มีการดำเนินการศึกษาด้านนี้ และยังไม่มีนโยบายด้านการสำรวจอวกาศที่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติจึงได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์อวกาศแห่งชาติปี 2560 - 2579 ขึ้น ให้ประเทศไทยมีแผนพัฒนาด้านอวกาศระยะยาวที่ชัดเจนครอบคลุมทั้งด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ การพัฒนาบุคลากร และการใช้ประโยชน์จากอวกาศ โดยที่ผ่านมา สทอภ. และ สวทช. ร่วมกันสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับอวกาศและเทคโนโลยีอวกาศ โดยตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนความก้าวหน้าด้านอวกาศในหลายๆ ด้าน อาทิ การส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เนื่องจากในอดีตจนถึงปัจจุบันพบว่า การพัฒนาด้านเทคโนโลยีอวกาศได้สร้างผลพวงเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์มากมายให้กับมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็น ดาวเทียม กล้องถ่ายรูปดิจิทัล อุปกรณ์ไร้สายต่างๆ การวางแผนด้านอวกาศจึงเป็นการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการรับมือต่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ นอกจากนี้ การเข้าไปมีส่วนร่วมกับประเทศอื่นๆ ทั้งการสร้างและพัฒนาดาวเทียม ยานสำรวจอวกาศ การทดลองงานวิจัยในอวกาศ หรือสร้างมนุษย์อวกาศตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อที่จะได้ร่วมแบ่งปันอรรถประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจากอวกาศ โดยเฉพาะทรัพยากรความรู้ที่สามารถนำมาต่อยอดเป็นนวัตกรรมต่างๆ ได้มากมายให้กับประเทศของเราได้ในอนาคต"
ดร.กฤษฎ์ชัย สมสมาน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อวิทยาศาสตร์ สวทช. กล่าวว่า "จุดเริ่มต้นจากการที่ สวทช. ร่วมมือกับ สทอภ. ดำเนินโครงการ Asian Try Zero-G ตั้งแต่ปี 2558 โดยเปิดรับแนวคิดของเยาวชน มาสร้างเป็นการทดลองในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำอย่างง่าย เช่น การโค้งของผิวของเหลวชนิดต่างๆ ซึ่งได้รับการนำไปทดสอบโดยมนุษย์อวกาศชาวญี่ปุ่นบนสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station: ISS) และเพื่อเป็นการต่อยอดแนวทางการทดลองในอวกาศของประเทศไทย โครงการ National Space Exploration : NSE จึงได้ก่อตั้งขึ้นและดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สทอภ. และ สวทช. โดยยกระดับแนวความคิดจากเยาวชนขึ้นมาเป็นระดับนักวิจัย เปิดรับข้อเสนอโครงการวิจัยที่มีศักยภาพและมีความต้องการทำการทดลองในอวกาศ สามารถนำไปขยายผลต่อยอดงานวิจัย เพื่อก่อให้เกิดนวัตกรรมอวกาศใหม่ๆ ในอนาคต และเป็นการสนับสนุนยุทธศาสตร์อวกาศแห่งชาติด้านการวิจัยและสำรวจห้วงอวกาศ ซึ่งโครงการ NSE ในระยะยาวจะนำไปสู่ภารกิจ Manned Space Program หรือโปรแกรมนักบินอวกาศ และเป็นก้าวแรกของการสำรวจอวกาศต่อไปในอนาคต"
"งานสัมมนาอวกาศ : ขุมทรัพย์แห่งมวลมนุษยชาติ หรือ Space : Infinite Assets for All Humankind ในวันนี้ ผู้ร่วมงานจะได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของการดำเนินกิจการด้านการศึกษาอวกาศในประเทศไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงประสบการณ์การสำรวจและการทดลองงานวิจัยในอวกาศจากองค์กรอวกาศชั้นนำจากต่างประเทศ อาทิ แคนาดา จีน ยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา และรัสเซีย ตลอดจนการระดมสมองเพื่อผลักดันการศึกษาและการวิจัยในอวกาศเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน" ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อวิทยาศาสตร์ สวทช. กล่าว
ด้าน ดร.อัมรินทร์ พิมพ์หนู หัวหน้าโครงการ National Space Exploration สทอภ. กล่าวว่า "แนวทางการวิจัยที่ทางโครงการต้องการ สามารถเป็นการทดลองในหลายสาขา เช่น ฟิสิกส์ วัสดุศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ที่ต้องการดำเนินการทดลองในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำหรือในอวกาศ โดยที่ไม่เคยมีผู้ใดทำการทดลองมาก่อน โดยผู้ได้รับการคัดเลือกในกิจกรรม National Space Experiment 2017 จะได้รับเงินสนับสนุนงานวิจัย และมีโอกาสเดินทางไปดูงานกิจการอวกาศขององค์กรอวกาศต่างประเทศ สามารถดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์http:// www.nstda.or.th/nse และหากต้องการส่งบทคัดย่อการทดลอง เพียงกรอกแนวความคิดการทดลองลงในแบบฟอร์มบทคัดย่อจากเว็บไซต์โครงการ แล้วส่งมาที่ nse@nstda.or.th เพื่อคณะกรรมการพิจารณาต่อไป ทางโครงการมีงบประมาณบางส่วนที่พร้อมสนับสนุนการเตรียมอุปกรณ์การทดลอง และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการนำการทดลองขึ้นไปบนอวกาศ"
"โครงการ NSE ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันวงการวิจัยไทยและนักวิจัยชาวไทยให้มีโอกาสสรรสร้างผลงานและองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ในด้านการทดลองในอวกาศและสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงได้เทียบเท่าประเทศอื่นๆ เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ และนำไปสู่พัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยให้ดียิ่งขึ้น สำหรับแผนการระยะยาวจะนำไปสู่ภารกิจ Manned Space Program หรือนักบินอวกาศ โดยหน้าที่ของนักบินอวกาศคือทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงต่ำนั่นเอง ดังนั้นอวกาศจึงเปรียบได้กับขุมทรัพย์อันมหาศาล ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจที่มีมูลค่าและยั่งยืน" หัวหน้าโครงการ National Space Exploration สทอภ. กล่าว