กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--ซี ทู วัน เอ็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล อีเว้นท์
จากแนวคิดและนโยบายของนายกรัฐมนตรี "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"ที่ให้ความสำคัญกับอาชีวะที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศ เน้นการพัฒนาการผลิตบุคลากรในภาคการศึกษาที่สอดคล้องและตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งในส่วนของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน(HBA:Home Builder Association) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทุนมนุษย์ในส่วนของ "อาชีวศึกษา"ด้วยเช่นกัน
การเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทุนมนุษย์ ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ผ่านโครงการหลักสูตรอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ที่ล่าสุดได้ทำพิธีมอบตัวนักศึกษาในโครงการเป็นรุ่นที่ 5 สาขาผู้ควบคุมงานก่อสร้างและสาขาเขียนแบบรวมจำนวน 18 คน มีบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯรับนักศึกษาเข้าร่วมโครงการนั้นมีดังนี้ บริษัท ลีอาร์คิเทค จำกัด ,บริษัทมีนบุรี รับสร้างบ้าน จำกัด ,บริษัทเนเชอรัลโฮม จำกัด, บริษัทรอแยลเฮ้าส์ จำกัด,บริษัทมาสเตอร์แปลน101 จำกัด,บริษัทออลเฮ้าส์ จำกัดและบริษัทไมก้า กรุ๊ป จำกัด ซึ่งการเรียนการสอนภายใต้หลักสูตรดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างทฤษฎีและปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการจบโครงการกามีงานทำทันทีพร้อมรันตีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งความเคลื่อนไหวและการจัดกิจกรรมต่างๆจะเผยแพร่ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของสมาคมฯwww.hba-th.org หรือสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทร : 0-2570-0153,0-2940-2744
ดร.พัชรา ตัณฑยรรยง กรรมการกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการก่อสร้างยังเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ โดยสมาคมฯได้ตระหนักในปัญหานี้มาตลอดและพร้อมที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขอย่างมีระบบผ่านโครงการทวิภาคี สาขาอาชีพผู้ควบคุมงานก่อสร้างและสาขาเขียนแบบที่สมาคมฯได้ร่วมมือกับภาครัฐ และสถาบันการศึกษา และที่ผ่านมาได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)จัดทำ "โครงการพัฒนาบุคลากรสาขาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างบ้าน" โดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ดำเนินการเปิดรับสมัครมาแล้วถึงปัจจุบัน(ปี2560)รวม 5 รุ่น ทางสมาคมฯได้คัดเลือกนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.)จากวิทยาลัยเทคนิคทั่วประเทศ ที่มีผลการเรียนดี และมีความประพฤติดี ได้เรียนต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.)ฟรีตลอดหลักสูตร ที่ปีนี้ก็เป็นปีที่สองที่สมาคมฯได้เพิ่มสาขางานเขียนแบบเข้าไปด้วยจากเดิมจะคัดเลือกเฉพาะสาขาผู้ควบคุมงานก่อสร้าง
"สมาคมฯเราเพิ่มเขียนแบบเข้ามา เพราะงานเขียนแบบมีความจำเป็นมากและตลาดมีความต้องการผู้ที่มีความรู้และจบการศึกษาด้านนี้อยู่มาก" ดร.พัชรากล่าว
" On the Job training"เรียนจบมีงาน-มีเงิน
แนวทางการเรียนการสอนภายใต้โครงการทวิภาคี จะแบ่งเป็นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยการเรียนรู้จริงในภาคปฏิบัติจะเกิดขึ้นอย่างเข้มข้นในสถานประกอบการ เป็นเวลา 4 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์-พฤหัสบดี) ขณะที่ในช่วงวันศุกร์และเสาร์ จะเป็นเวลาของการเรียนภาคทฤษฎี ณ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน (วัดธาตุทอง) โดยวิทยาลัยเทคนิคดุสิต ทำหน้าที่ดูแลการเรียนการสอนในส่วนนี้"ข้อดีของหลักสูตรนี้คือ ผู้เรียนจะได้รับความรู้และประสบการณ์ในแบบ On the Job training มีพี่ๆ คอยให้คำปรึกษาและฝึกงานตลอด 2 ปีในหลักสูตร"
ดร.พัชรา ยังกล่าวถึงสิทธิประโยชน์ของนักศึกษาที่ร่วมโครงการทวิภาคี เมื่อนักศึกษาผ่านการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์จะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานของบริษัทที่ให้ทุนในตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ควบคุมงานก่อสร้าง อีกทั้งยังได้รับทุนการศึกษาค่าหน่วยกิตและบำรุงการศึกษาตลอดหลักสูตรประมาณ 35,000 บาทต่อคน ค่าเบี้ยเลี้ยงไม่ต่ำกว่า 9,000 บาทต่อเดือน พร้อมที่พักตลอดระยะเวลาการศึกษาในโครงการ 2 ปี
นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการอื่นๆ อาทิ สวัสดิการด้านสุขภาพ อุปกรณ์การเรียนต่างๆ สำหรับเสื้อผ้า-เครื่องแต่งกายใช้แบบฟอร์มตามที่สมาคมกำหนดและหลังเรียนจบหลักสูตรจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานบริษัทที่ให้ทุน หลังจากจบการศึกษา2ปีและจบโครงการการันตีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนอีกด้วย