กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--ลัคกี้ยูเนี่ยน ฟู้ดส์
บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด พร้อมด้วยพนักงานบริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งจากเนื้อปลาบดแบรนด์ลัคกี้ (LUCKY) กับสโลแกน "ENRICHING MOMENTS ทุกช่วงเวลามีคุณค่า" มากกว่า 25 ปี มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ รุกขยายตลาด "Modern Trade และ AEC"
นางสาววันทนี แสงอุทัย รองประธานกรรมการ บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวถึงยอดขายภายในประเทศปี 2559 ที่ผ่านมานั้นว่ายอดขายจากการวางตลาดกลุ่มเป้าหมายอย่าง Food Service, สินค้าภายใต้แบรนด์ LUCKY และกลุ่มสินค้า Modern Trade บริษัทฯ ได้เติบโตตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ประมาณ 35% เมื่อเทียบกับปี 2558 ด้วยปัจจัยการขยายกำลังผลิต และการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าใหม่
ด้านตลาดต่างประเทศในปี 2559 เติบโตจากปี 2558 ประมาณ 20% คือ 1,600 ล้านบาท โดยมีการขยายฐานลูกค้าเก่าทั้งตลาดในยุโรป, อเมริกาและเอเชีย โดยยอดการเติบโตดังกล่าวนี้ไม่รวมยอดขายของบริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ – ยูโร ประเทศโปแลนด์
นางสาววันทนี แสงอุทัย รองประธานกรรมการ เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในปี 2560 ว่า "ตามนโยบายของบริษัทที่จะต้องเติบโตให้ได้ถึงร้อยละ 20 บริษัทฯ ตั้งเป้าสำหรับปี 2560 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท สำหรับตลาดในประเทศ โดยเน้นดำเนินการขยายตลาดให้กว้างขึ้น มุ่งเน้นสร้างการรับรู้ เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์และหาซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้น ทางบริษัทฯวางเป้าจัดจำหน่ายสินค้า Food Service 50% และ Modern Trade เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 50% ในส่วนของ Modern Trade นั้น เรามีแผนนำสินค้าเข้าหลายชนิดมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การทานอาหารของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ด้านตลาดในต่างประเทศนั้น บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 15% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเราจะมุ่งเน้นเจาะตลาดใหม่ๆ อย่างกลุ่มประเทศ AEC เป็นต้น "การเปิดตลาด AEC นั้น เป็นผลดีกับบริษัทฯ ซึ่งกลุ่มประเทศ AEC ได้แก่กัมพูชา พม่า สปป.ลาว ฯลฯ ในการขยายตลาด AEC เราก็เชื่อว่าเราจะเติบโตได้ เพราะคนอาเซียนเชื่อมั่นในอาหารที่ผลิตในประเทศไทย อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าเก่าทั้งตลาดในยุโรป, อเมริกาและเอเชีย ด้วยการเน้นคุณภาพสินค้าที่สม่ำเสมอ มีการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบของยุโรป และอเมริกาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนในเรื่องของ IUU ที่ทางประเทศไทยจัดอยู่ในระดับ Tier 2 นั่นทางบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้เนื่องด้วยทางบริษัทฯมีการจัดการด้วยระบบการจัดการของกรมประมง Catch Certificate ทำให้เราคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพได้โดยตลอด อีกทั้งในส่วนของเรื่องคนบนเรือกับคนทำงานท่วไปนั่นที่ทางภาครัฐมีข้อกำหนดทางบริษัทฯมีระบบจัดการรองรับ โดยทางเรามีรูปแบบการดำเนินงานภายใต้ Thai Union Group โดยเน้นประเด็นเรื่องแรงงาน SMETA ไปกับระบบการตรวจประเมินผู้จัดจำหน่ายด้วย