กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามผลการ ใช้จ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2548 ณ ห้องประชุม 201 กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พบปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินล่าช้า ซึ่งมีทั้งปัญหาภายในของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เช่น มีการแก้ไขคุณลักษณะครุภัณฑ์ แบบแปลนการก่อสร้าง หรือเปลี่ยนแปลงรายการเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้จ่ายปัจจุบันและวงเงินงบประมาณที่ได้รับ และส่วนราชการส่วนกลางโอนจัดสรรเงินประจำงวดไปให้หน่วยงานในภูมิภาคล่าช้า และปัญหาที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น การขอความเห็นชอบด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้มีการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินโดยเร่งให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจโอนเงินงบประมาณให้หน่วยงานโดยเร็ว และให้มีการรายงานผลการก่อหนี้ให้คณะกรรมการฯ ทราบทุกเดือน พร้อมทั้งกรมบัญชีกลางได้จัดทีมเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย และที่ประชุมคณะกรรมการฯ ยังได้เสนอแนวทางในการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 โดยให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรายงานปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งจากปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก เหตุจำเป็นหรือเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามแผน ว่าพบปัญหาอุปสรรคในการเบิกจ่ายเงินโครงการใด คิดเป็นร้อยละเท่าไร ก่อนสิ้นไตรมาสแต่ละไตรมาส เพื่อให้มีการติดตามอย่างเป็นระบบ แล้วนำเสนอรายงานดังกล่าว ต่อคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขต่อไป
สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐในภาพรวมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2548 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,663,644 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67.86 ของปริมาณเงินที่คาดว่าจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวน 2,451,570 ล้านบาท โดยแยกเป็น เงินงบประมาณ จำนวน 924,282 ล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ เงินกู้ต่างประเทศ เงินของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 739,362 ล้านบาท
ในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2548 มีผลการเบิกจ่าย จำนวน 998,176 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84.84 ของวงเงินงบประมาณ (วงเงินงบประมาณ 1,176,600 ล้านบาท กรณีไม่รวมงบกลาง 23,400 ล้านบาท) แยกเป็น รายจ่ายประจำ จำนวน 815,540 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 90.53 และรายจ่ายลงทุน จำนวน 182,636 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 66.22 โดยสามารถเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนได้สูงกว่าผลการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ 8.13 และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จะสามารถ เบิกจ่ายเงินได้ตามเป้าหมายที่ ครม. กำหนด--จบ--