กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--สสว.
สสว. กสอ. และสถาบันฯสิ่งทอ ผนึกกำลังประชารัฐ เดินหน้าโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มศักยภาพสู่ตลาดสากล ปี 2560 เน้นต่อยอดภูมิปัญญาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อผลิตสินค้าที่มีอัตลักษณ์ตอบโจทย์ตลาดให้แก่ SME และวิสาหกิจชุมชน 1,000 รายทั่วประเทศ
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มศักยภาพสู่ตลาดสากล ปี 2560 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตยุค 4.0 ในสาขาอุตสาหกรรมแฟชั่นไลฟ์สไตล์ ได้แก่ สินค้าในกลุ่มสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องเรือน ของตกแต่ง ของที่ระลึก และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยเน้นการพัฒนาทั้งด้านการออกแบบทางกายภาพที่ตรงกับรสนิยมของผู้บริโภคและด้านอรรถประโยชน์ใช้สอยที่ตรงกับความต้องการของตลาด โดยให้มีการนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นและนวัตกรรมใหม่ๆ มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของผู้ประกอบการด้วย ทั้งนี้ สสว.ตั้งเป้ามีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 1,000 ราย ได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีเอกลักษณ์แข่งขันได้ในตลาดโลก สามารถผลิตและขายได้ในเชิงพาณิชย์ไม่น้อยกว่า 1,000 ผลิตภัณฑ์ และสามารถสร้างรายได้ตลอดสายการผลิต ประมาณ 500 ล้านบาท ภายใน 1 ปี เกิดการจ้างงานตลอดห่วงโซ่เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 อัตรา
การดำเนินกิจกรรมภายในโครงการนั้น สสว.ได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ตามแนวทางประชารัฐกำหนดเป็นแนวความคิด "คิด ผลิต ขาย" โดยร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กระทรวงวัฒนธรรม บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) องค์การพัฒนาสภาการค้าฮ่องกง (HKTDC) และ บริษัทเวิร์ลเด็กซ์ จี.อี.ซี.จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของ HKTDC ประเทศไทย ให้เป็นที่ปรึกษาและวิทยากรให้ความรู้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนั้น สสว.เปิดรับสมัครและคัดเลือกจากทั้ง ฐานข้อมูลสมาชิกของ สสว. และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการของ สสว. เช่น กลุ่ม Start Up กลุ่ม Turn Around กลุ่ม Regular นอกจากนี้ยังรับสมัครจากผู้ประกอบการในกลุ่มโครงการบูรณาการอื่นๆ รวมไปถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย ในพื้นที่ทั่วประเทศด้วย
นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวต่อว่า กสอ. ได้คัดเลือกสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมทั้งยังเป็นหน่วยงานที่มีเครือข่ายครอบคลุมตอบโจทย์กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของโครงการฯ มาเป็นผู้ดำเนินโครงการ โดยแบ่งพื้นที่คัดเลือกผู้ประกอบการทั่วประเทศเป็น 5 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ได้ผู้ประกอบการมาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 1,000 รายตามที่ สสว.กำหนดส่วนสาระในการให้องค์ความรู้เชิงปฏิบัติการนั้น จะเน้นใน 2 ส่วน คือเรื่อง design thinking และการเก็บข้อมูลเพื่อการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ฝึกการออกแบบเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่นเชิงพาณิชย์ กับด้านการทำตลาดระดับสากล ในรูปแบบตลาดสมัยใหม่ ช่องทางออนไลน์ ทั้งการสร้างร้านค้าในโลกดิจิตอลบนเวปไซต์และบนแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ(smart phone) เช่น การสร้างแบรนด์บนเพจเฟสบุค การสมัครสมาชิกเวปไซต์ ID-Society เพื่อนำสินค้าเข้ามาโพสต์จำหน่ายและยังอบรมวิธีการถ่ายภาพโฆษณาโดยใช้มือถือ
ทั้งนี้ กสอ.ได้คัดสรร บุคลากรมืออาชีพมาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา โครงการ เช่น ผู้เชี่ยวชาญและ
นักออกแบบด้านเครื่องแต่งกาย ซึ่งเป็นผู้ออกแบบชุดประจำชาติชุดตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์แก่ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) จัดวิทยากรมาให้องค์ความรู้ด้านบรรจุภัณฑ์ องค์การพัฒนาสภาการค้าฮ่องกง (HKTDC) และ บริษัทเวิร์ลเด็กซ์ จี.อี.ซี.จำกัด จัดวิทยากรให้ความรู้เรื่องการทำตลาดในระดับสากล เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพไปเปิดตลาดการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการตลาดเข้ามามีส่วนร่วมในการ คัดเลือกผู้ประกอบการ ตัวแทน 5 ภูมิภาคที่มีผลงานโดดเด่น ภูมิภาคละ 1 ราย มาคัดเป็นสุดยอดผู้ประกอบการเพียง 1 ราย เพื่อรับสิทธิ์เดินทางเข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าในประเทศฮ่องกง เป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยก้าวเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ในระดับอาเซียนและระดับโลก หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจเข้าร่วมโครงการสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ โทร. 0 2713 5492 ต่อ 403 หรือwww.thaitextile.org