กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เตรียมพร้อมโครงการปรับปรุงระบบประปาภายหลังรับโอนของ กปภ.สาขาภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และ กปภ.สาขาเชียงคาน จังหวัดเลย หลังรับจัดสรรงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อเร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของประเทศโดยไม่มีความเหลื่อมล้ำ
นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 อนุมัติวงเงินลงทุนให้ กปภ. ดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาปี 2560 ในการปรับปรุงระบบประปาภายหลังรับโอนของ กปภ.สาขาภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และ กปภ.สาขาเชียงคาน จังหวัดเลย โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและจ่ายน้ำประปาในพื้นที่ที่ประสบปัญหาให้สามารถบริการน้ำประปาแก่ประชาชนเพิ่มขึ้นในอีก 10 ปี ข้างหน้าอย่างพอเพียงและยั่งยืน สำหรับโครงการปรับปรุงระบบประปาภายหลังรับโอนของ กปภ.สาขาภูเขียว วงเงินงบประมาณ 30.615 ล้านบาท ประกอบด้วย การวางท่อส่งน้ำความยาว 10.5 กิโลเมตร เพื่อส่งน้ำประปาที่ผลิตจาก กปภ.สาขาภูเขียว มายังสถานีจ่ายน้ำหนองแวงพร้อมวางท่อจ่ายน้ำความยาว 18.8 กิโลเมตร ให้บริการประชาชนกว่า 800 ราย ในหมู่บ้านหนองแวง หมู่ที่ 8 และ 9 ตำบลโอโล อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ โครงการปรับปรุงระบบประปาภายหลังรับโอนของ กปภ.สาขาเชียงคาน วงเงินงบประมาณ 58.677 ล้านบาท โดยการก่อสร้างโรงสูบน้ำแรงต่ำแบบแพลอยที่สถานีคกเลาเหนือ พร้อมวางท่อส่งน้ำดิบระยะทาง 2 กิโลเมตร จากแม่น้ำโขงมายังสถานีผลิตน้ำบ้านคกเลาใต้ พร้อมก่อสร้างระบบผลิต 100 ลบ.ม./ชม. รวมถึงก่อสร้างสถานีเพิ่มแรงดันที่บ้านผาแบ่นและปรับปรุงระบบจ่ายน้ำ โดยการวางท่อจ่ายน้ำความยาว 26 กิโลเมตร เพื่อให้บริการประชาชนกว่า 1,600 รายในพื้นที่ตำบลบุฮม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยทั้ง 2 โครงการ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมในอีก 10 ปี ข้างหน้าได้อย่างมั่นใจและสร้างผลประโยชน์จากการลงทุนในระยะยาว
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากรัฐบาลให้เร่งรัดการขยายเขตจำหน่ายน้ำประปาไปยังพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาดให้ทั่วทุกภูมิภาค เพื่อพัฒนาระบบประปาของประเทศและส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียมกัน