กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรม ใน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ แนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบในเขตพื้นที่ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมการติดตั้งเครื่องมือผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ ของกรมชลประทาน ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล อำเภอบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้น เดินทางตรวจเยี่ยมจุดผลักดันน้ำ ตำบลน้ำเต้า อำเภอบางบาล ก่อนเดินทางไปยังประตูระบายน้ำที่ หมู่ 7 ตำบลกบเจา อำเภอบางบาล เพื่อรับทราบความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่
นายธีรภัทร กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรม จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 33,000 ไร่ (26 พ.ค. 60 – 1 มิ.ย. 60) ซึ่งขณะนี้กรมชลประทานได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือ ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.บางปะอิน อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา อ.เสนา และ อ.บางบาล 12 จุด จำนวน 17 เครื่อง สามารถสูบช่วยเหลือไปแล้ว 20,000 ไร่ คงเหลือที่ต้องสูบ 13,000 ไร่ คาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 3 - 5 วัน จะเข้าสู่ภาวะปกติได้หากไม่มีประมาณฝนตกในเขตพื้นที่เพิ่มเติม นอกจากนี้ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณสะพานวัดสีกุก ในแม่น้ำน้อย จำนวน 6 เครื่อง เครื่องผลักดันมีอัตรา 1.3 ลบม./วินาที ซึ่งสามารถผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น วันละ ประมาณ 617,000 ลบม./วินาที รองรับน้ำที่จะสูบระบายจากพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
"ขณะนี้สถานการณ์น้ำภาพรวมยังปกติ แต่ในพื้นที่ จ.อยุธยา ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก มีปริมาณน้ำฝนกว่า 200 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง จากการบูรณาการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถลดพื้นที่น้ำท่วมขังลง เหลือประมาณ 10,000 กว่าไร่ โดยการนำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบออกจากพื้นที่ท่วมขัง พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ติดตามตรวจเยี่ยมเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที ตลอดจนขอให้พี่น้องเกษตรกรมีความสบายใจ ขณะนี้กำลังเร่งระดมกำลังเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว" นายธีรภัทร กล่าว