กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--อินโดรามา เวนเจอร์ส
ก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มยางในรถยนต์ การเข้าซื้อกิจการที่เพิ่มผลกำไรให้สูงขึ้น
ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วยการเข้าสู่เทคโนโลยีเรยอน
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือไอวีแอล ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ประกาศเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการบริษัท Glanzstoff Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์และเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์ ส่งผลให้ไอวีแอลมีการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัท Glanzstoff เป็นผู้ผลิตยางในรถยนต์และเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์สมรรถนะสูงรายใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้คาดว่าจะผลักดันให้ไอวีแอลมีการเติบโตเพิ่มเติมอย่างแข็งแกร่งจากการขยายตัวเข้าสู่ธุรกิจเรยอน เส้นใยอะระมิด ไนลอน 6.6 และโพลีเอสเตอร์ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
อินโดรามา เวนเจอร์ส เข้าสู่ธุรกิจยางในรถยนต์ในปี 2557 ด้วยการเข้าซื้อกิจการบริษัท PHP Fibers ในประเทศเยอรมนี และได้เข้าซื้อบริษัท Performance Fibers ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการเส้นใยโพลีเอสเตอร์สำหรับยางในรถยนต์ชั้นนำในประเทศจีน บริษัท Performance Fibers เริ่มดำเนินงานในช่วงต้นปี 2560 โดยมีการขยายสายการผลิตเพิ่มตามความต้องการที่สูงขึ้นอันเป็นผลมาจากการปรับตัวของเศรษฐกิจประเทศจีน นอกจากนี้บริษัท Glanzstoff กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาโครงการเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์ในประเทศจีน โดยวางเป้าหมายจะเริ่มผลิตในไตรมาสที่ 4 ปี 2560
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ กล่าว "บริษัท Glanzstoff นับเป็นสินทรัพย์ที่มีความโดดเด่นในกลุ่มของเรา และเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในอันยาวนานของเราเพื่อสร้างสถานภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในทวีปยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยางในรถยนต์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไอวีแอลมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลายเพิ่มเติมผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) โดยปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA นี้เองส่งผลให้เรามีการเติบโตของกำไรอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน และเพื่อความชัดเจนในการดำเนินงานอย่างตรงเป้าหมาย บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการขยายการเติบโตในแนวดิ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ซึ่งรวมถึงกลุ่มยานยนต์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย และขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการลงทุนในทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม"
นายโลเฮีย กล่าวเสริม "สิ่งสำคัญ คือ การที่เรามุ่งเน้นในสิ่งที่เรามีความถนัดที่เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ และยินดีที่จะลงทุน รวมถึงลงทุนเพิ่มเติมเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ทั่วโลกของเรา การเข้าซื้อกิจการบริษัท Glanzstoff ทำให้เราก้าวจากโพลีเอสเตอร์และไนลอน 6.6 ไปสู่เรยอน โดยที่ยังคงรักษาความเกี่ยวข้องในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีในปัจจุบัน และยังช่วยส่งเสริมความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าหลักของเรา ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ สัดส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA มีการเติบโตขึ้นอย่างมากและปัจจุบันสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯได้ประมาณสามพันล้านเหรียญสหรัฐ และกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มเติบโตประมาณร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา"
"อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการลงทุนที่สำคัญสำหรับไอวีแอล ส่งผลให้บริษัทฯ มีการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มอย่างรวดเร็ว ไอวีแอลเป็นบริษัทชั้นนำที่มีการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ มีการดำเนินงานอยู่ทั่วโลกซึ่งเป็นจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าผู้ผลิตรายอื่นอย่างยั่งยืน ทำให้บริษัทฯเป็นคู่ค้าด้านเส้นใยอันดับหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ การเข้าซื้อกิจการบริษัท Glanzstoff มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในทางภูมิศาสตร์ เราจะเข้าสู่ประเทศลักเซมเบิร์ก อิตาลี และสาธารณรัฐเช็ก ทำให้มีความสะดวกจากสถานที่ตั้งโรงงานที่อยู่ใกล้กับลูกค้ารายใหญ่ ในฐานะที่เราเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก เรามุ่งที่จะสร้างผลตอบแทนที่เติบโตและยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของเรา" นายโลเฮีย กล่าวสรุป