กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--ก.ล.ต.
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 5/2543 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2543 มีมติในเรื่องเกี่ยวกับ
1. การแก้ไขหลักเกณฑ์การอนุญาตเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกรณีบริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
2. การแก้ไขหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามมาตรา 56 และหลักเกณฑ์การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหารและผู้สอบบัญชีของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามมาตรา 59
3. การให้ความเห็นชอบหลักการของการแก้ไขเกณฑ์การรับหลักทรัพย์จดทะเบียน
4. การให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับสมาชิก พ.ศ. 2543
1. การแก้ไขหลักเกณฑ์การอนุญาตเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกรณีบริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติอนุมัติร่างประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ประเภทใบสำคัญแสดงสิทธิ และหุ้นหรือหุ้นกู้ที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ และการอนุญาต ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการพิจารณาร่างประกาศเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์แล้ว เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เสนอขายหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกใหม่ต่อประชาชนให้สอดคล้องกัน โดยการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นต่อประชาชนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ(second public offering : SPO) ที่ไม่อยู่ในข่ายเพิกถอน ต้องยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน และแก้ไขนิยามผู้ลงทุนประเภทสถาบัน 17 ประเภทที่กำหนดในร่างประกาศดังกล่าว ให้สอดคล้องกับนิยามดังกล่าวตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 12/2543 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ ลงวันที่ 22 มีนาคม 2543สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. (http://secwww.sec.or.th)สำนักเลขาธิการ ชั้น 16 อาคารดีทแฮล์ม ทาวเวอร์ส บี 93/1 ถนนวิทยุ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 252 - 3223 ต่อ 1619 และ 256 - 7732 โทรสาร 256 - 7755 E-mail : info@sec.or.th
2. การแก้ไขหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามมาตรา 56 และหลักเกณฑ์การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหารและผู้สอบบัญชีของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามมาตรา 59
คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบในหลักการของการแก้ไขหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามมาตรา 56 และหลักเกณฑ์การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหารและผู้สอบบัญชีของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามมาตรา 59แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ดังนี้
1. ยกเลิกทางเลือกของวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม เพื่อให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์บันทึกบัญชีตามมาตรฐานการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมที่มีการกำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทยเพียงเกณฑ์เดียวเท่านั้น ซึ่งจะทำให้งบการเงินของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์สะท้อนฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่แท้จริงและสามารถเปรียบเทียบกันได้
2. เพิ่มเติมกรณีการสิ้นสุดหน้าที่ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานและหน้าที่ของผู้บริหารและผู้สอบบัญชีของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ในการจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ เพื่อลดภาระในการจัดทำรายงานและการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทที่ไม่มีการดำเนินธุรกิจหรือบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นในวงจำกัด โดยกรณีสิ้นสุดหน้าที่ดังกล่าวครอบคลุมถึง
2.1 กรณีบริษัทถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และไม่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
2.2 กรณีบริษัทขอเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยความสมัครใจ โดยบริษัทได้จัดให้มีการเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั้งหมดแล้ว และมีผู้ถือหุ้นรายอื่นซึ่งมิใช่ผู้ทำคำเสนอซื้อและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ทำคำเสนอซื้อตามมาตรา 258 ถือหุ้นรวมกันไม่เกินร้อยละ5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
2.3 กรณีบริษัทเป็นสถาบันการเงินที่ถูกทางการแทรกแซงการประกอบกิจการและสั่งให้หยุดดำเนินกิจการ และไม่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
3. ยกเลิกประกาศเกี่ยวกับการรายงานการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรา 56 และมาตรา 59 ของสถาบันการเงินและผู้บริหารของสถาบันการเงินที่คณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินสั่งปิดกิจการ เพื่อลดภาระในการจัดทำรายงานและการเปิดเผยข้อมูลของสถาบันการเงินที่หยุดดำเนินกิจการ
3. การให้ความเห็นชอบหลักการของการแก้ไขเกณฑ์การรับหลักทรัพย์จดทะเบียน
คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบในหลักการของการแก้ไขเกณฑ์การรับหลักทรัพย์จดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้
1. ยกเลิกการกำหนดมูลค่าที่ตราไว้ (par value) โดยบริษัทจดทะเบียนสามารถกำหนด par value ได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท ตามที่พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 กำหนด เพื่อช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องให้แก่หลักทรัพย์จดทะเบียน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรที่จะพิจารณาและติดตามข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งได้เปิดเผยเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี par value แตกต่างกันด้วย
2. ลดขั้นตอนการพิจารณารับหลักทรัพย์ โดยยกเลิกขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการการพิจารณารับหลักทรัพย์ เพื่อให้การพิจารณารับหลักทรัพย์ของบริษัทใหม่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วขึ้น
4. การให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับสมาชิก พ.ศ. 2543
คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบร่างข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับสมาชิก พ.ศ. 2543 ซึ่งเป็นการแก้ไขข้อบังคับฉบับเดิม โดยกำหนดหน้าที่ของผู้บริหารของบริษัทสมาชิกให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และกำหนดให้ผู้บริหารดังกล่าวจะต้องได้รับการอบรมตามหลักสูตรที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด อันจะเป็นการยกระดับมาตรฐานและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจของผู้บริหารดังกล่าว--จบ--
-สส-