กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--แด็ด เอ็นเทอร์เทนเมนต์
1.วัตถุประสงค์และความเป็นมา
“สดใสอวอร์ด” เป็นรางวัลสำหรับการจัดประกวดบทละครเวทีสมัยใหม่ ระดับอุดมศึกษา ซึ่งได้รับเกียรติ อนุญาตให้ใช้ชื่อของ รองศาสตราจารย์สดใส พันธุมโกมล ผู้ริเริ่มนำวิชาศิลปะการละครสมัยใหม่ (MODERN DRAMA) เข้ามาบรรจุในหลักสูตรระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย
วัตถุประสงค์หลักของการจัดประกวดฯ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณูประการของอาจารย์ ที่มีต่อวงการละครเวที ในประเทศไทย และเพื่อส่งเสริมศิลปะการแสดงละครเวทีให้ขยายออกไปในวงกว้าง ทั้งยังต้องการสนับสนุน ผู้ที่มีใจรักและความสามารถในศิลปะแขนงนี้ให้มีโอกาสแสดงผลงาน ปรากฏต่อสาธารณชน ด้วยความมุ่งหวังให้ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์สำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ให้รักและเข้าใจศิลปะการละคร
การประกวดได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำนับแต่ปี 2537 เป็นต้นมา โดยจะจัดงานประกวด เพื่อตัดสินผลงาน ครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี
2.หัวข้อการประกวดสำหรับในปี 2543
ไม่จำกัดเนื้อหาว่าจะเป็นแนวใด เป็นต้นว่า รักโรแมนติก สืบสวนสอบสวน ลึกลับสยองขวัญ ตื่นเต้นผจญภัย ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ชีวิตเศร้าเคล้าน้ำตา ปรัชญาชีวิต หรือตลกเสียดสีล้อเลียนฯลฯ
3.ผู้มีสิทธิเข้าประกวด
3.1 ผู้ที่มีสถานภาพเป็นนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา หรือ เทียบเท่า ทั้งนี้ผู้เข้าประกวดทุกคนจะต้องมีใบรับรองสถาน ภาพจากทางมหาวิทยาลัยแนบมาด้วย
3.2ต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี
3.3สามารถส่งในนามบุคคลหรือกลุ่มก็ได้
เริ่มส่งบทละครได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2543 ติดต่อขอรับสมัครได้ที่ เคาน์เตอร์ขายบัตร โรงละครกรุงเทพ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ในวันเวลาทำงาน ตั้งแต่ 10.00 น. | 18.00 น. หรือติดต่อสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมที่ 3197641-4
4.กฎกติกาข้อบังคับที่ผู้เข้าประกวดทุกคนต้องทราบ
การประกวดประจำปี 2543 ยังคงแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนเช่นเดิม คือ
ขั้นตอนแรก -บทละคร
4.1 จะต้องเป็นบทที่เขียนขึ้นเอง มิได้นำเค้าโครง ดัดแปลงหรือแปลมาจากบทละคร บทหนัง หรือนวนิยายเรื่องอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศ หากกรรมการทราบก่อนหรือหลังการตัดสินว่า เรื่องที่ได้รับรางวัล ไม่ผ่านเงื่อนไขในข้อนี้ กรรมการสงวนสิทธิที่จะไม่พิจารณาบทนี้ หรือเรียกรางวัลคืนในกรณีที่ตัดสินไปแล้ว
4.2 ความยาวของบทละคร อย่างน้อยประมาณ 30 หน้ากระดาษพิมพ์ หรือใช้เวลาแสดง 1 ชั่วโมงขึ้นไป
4.3 บทละครจะต้องเป็นภาษาไทยเท่านั้น กรรมการจะไม่พิจารณาบทละครที่เขียนขึ้นเป็นภาษาอื่นใดนอกจากนี้
4.4 เป็นบทละครที่ไม่เคยจัดแสดงมาก่อน ยกเว้นการจัดแสดงเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา จะพิจารณาเป็นกรณีไป
4.5 เป็นผลงานที่ไม่เคยส่งประกวดที่ใดมาก่อน
4.6 บทที่ส่งมาต้องมีใบสมัครของผู้จัดการประกวดแนบมาด้วย
(ใบสมัครสามารถถ่ายสำเนา หรือ พรินท์จากโฮมเพจของแดสได้)
คณะกรรมการจะตรวจพิจารณาบทละครเฉพาะที่ผ่านคุณสมบัติทั้ง 7 ประการดังกล่าวเท่านั้น และคัดให้เหลือเพียง 4 บทสุดท้าย ซึ่งผู้เข้าร่วมจะต้องพร้อมสำหรับการประกวดขั้นต่อไป
บทละครจะต้องพิมพ์มาอย่างเรียบร้อย และส่งเป็นสำเนามา 2 ชุด สำหรับบทละครนี้จะไม่คืนให้กับผู้เขียนไม่ว่าในกรณีใดๆ
ขั้นตอนหลัง -การนำเสนอบทละคร
การนำเสนอบทละคร หมายถึง การนำบทละครที่ได้รับคัดเลือกมาตีความ และจัดแสดง บทละครนั้นต่อผู้ชมและคณะกรรมการ ในวันตัดสิน (5 ธันวาคม 2543)
กติกาสำหรับการนำเสนอบทละคร (เมื่อผ่านเข้ารอบ)
การนำเสนอสามารถเลือกเสนอตอนที่คิดว่า เข้มขันที่สุด หรือจะลำดับต่อขึ้นใหม่โดยมิได้แก้ไขดัดแปลง เพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ความยาวทั้งสิ้นต้องไม่เกิน 30 นาที นักแสดงและทีมงานจะต้องมีสถานภาพเป็นนักศึกษา อายุไม่เกิน 25 ปี ต้องมีทีมงานซึ่งประกอบด้วยฝ่ายต่างๆเหล่านี้เป็นอย่างน้อย -ผู้กำกับการแสดง
-ผู้ควบคุมแสง
-ผู้ควบคุมดนตรี หรือเสียงประกอบ
-กำกับเวที 2 คน
-ผู้แสดง
4.ต้องส่งรายละเอียดที่เกี่ยวกับการแสดง : การใช้พื้นที่เวที การจดวางอุปกรณ์ประกอบฉากที่สำคัญ (อาจจะเป็นเพียง floorplan) รวมทั้งรายชื่อทีมงานพร้อมตำแหน่ง ตามกำหนดเวลาที่นัดหมาย (ซึ่งจะแจ้งทันทีหลังประกาศ ผลรอบแรก)
5.ผู้ผ่านเข้ารอบจะต้องเข้าร่วมสัมนาอบรมในกิจกรรมที่ทางผู้ประกวดกำหนดขึ้น (ถ้ามี)มิฉะนั้นจะตัดสิทธิ์การเข้าประกวด
ในวันประกวดนำเสนอบทละคร ผู้จัด ไม่เน้น ให้ต้องสร้างฉากใดๆ นอกไปจากอุปกรณ์ประกอบฉากเท่าที่จำเป็น ซึ่งทางโรงละครกรุงเทพจะเป็นผู้พิจารณาจัดหาให้ตามที่เห็นสมควร เพื่อให้ทุกกลุ่มที่เข้ารอบได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน สำหรับการเตรียมตัวใดๆที่นอกเหนือจากข้อกำหนด ผู้เข้าประกวดจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนล่วงหน้าเพื่อพิจารณาความเหมาะสม และเพื่อสามารถดำเนินการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่โรงละครกรุงเทพจะเป็นผู้ประสานงานเทคนิคแสง-เสียง ให้กับทีมงานทุกลุ่มอย่างเสมอภาค โดยจะจัดสรรอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้ทุกฝ่ายสามารถใช้งานร่วมกันได้มากที่สุด
อย่างไรก็ดี ผลการตัดสินในขั้นตอนหลังนี้ คณะกรรมการจะพิจารณาจากการนำเสนอบทละคร และการแสดงเท่านั้น จะไม่พิจารณาองค์ประกอบเสริมอื่นใดนอกจากนี้
5.รางวัล
ผู้ประกวดที่บทละครผ่านเข้ารอง 4 คนสุดท้าย จะได้รับรางวัลก่อนเรื่องละ 5,000 เพื่อใช้เป็นค่าเตรียมตัวสำหรับการเตรียมกลุ่มเพื่อประกวดการนำเสนอในรอบสุดท้าย ซึ่งจะประกาศผลในเดือนสิงหาคม และนัดวันประชุมรายละเอียดร่วมกันในเดือนกันยายน (ดูรายละเอียดจากข้อ 6 )
รางวัลที่จะมอบให้แก่ผู้ชนะมีดังนี้
-รางวัลบทละครยอดเยี่ยม จะได้รับทุนการศึกษา 10,000 บาทและรางวัลเกียรติยศ "สดใสอวอร์ด"
-รางวัลการนำเสนอบทละครยอดเยี่ยม จะได้รับทุนการศึกษา 10,000 บาท และรางวัลเกียรติยศ "สดใสอวอร์ด"
-รางวัลสำหรับบทละครดีเด่น 3 รางวัล ได้รับเหรียญรางวัลเกีบรติยศ “สดใสอวอร์ด”
-รางวัลสำหรับนักแสดงดีเด่น 1 รางวัล จะได้รับรางวัล“สดใสอวอร์ด”
-รางวัลสำหรับผู้กำกับการแสดงดีเด่น 1 รางวัล จะได้รับรางวัล “สดใสอวอร์ด”
6.กำหนดวัน เวลา ที่ผู้เข้าประกวดต้องทราบ
30 กันยายน -ปิดรับสมัครบทละครที่จะส่งเข้าประกวด
-ผู้เข้าประกวดสามารถส่งบทละครมาที่
DASS ENTERTAINMENT 288/4 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ห้วยขวาง กทม. 10320
(วงเล็บมุมซองว่า “ประกวดบทละครสดใสอวอร์ด”)
-ผู้เข้าประกวดต้องแนบใบรับรองสถานภาพนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยและกรอกรายละเอียดในใบสมัครของผู้จัดการ
ประกวดแนบมา พร้อมด้วยสำเนาบทละครพิมพ์เรียบร้อย 2 ชุดตามเงื่อนไข
30 ตุลาคม -ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 4 คน ณ โรงละครกรุงเทพ หรือ โทร.มาสอบถาม ที่เบอร์ 3197641-4 เวลา 13.00 น. | 18.00 น. (ยกเว้นวันหยุด)
1 พฤศจิกายน -เวลา 14.00 น. พิธีมอบรางวัล 5,000 บาท แก่ผู้ที่เข้ารอบ 4 คน ณ โรงละครกรุงเทพ
-ประชุมเพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเสนอบทละครและการเตรียมตัวจัดหาทีมงานและนักแสดง
1-3 ธันวาคม -ทีมงานผู้เข้ารอบทั้ง 4 กลุ่มหมุนเวียนกันซ้อมบนเวทีโรงละคร
4 ธันวาคม -จับสลากเพื่อลำดับการแสดงทุกทีมและซ้อมใหญ่ร่วมกัน
5 ธันวาคม -เวลา 14.00 น. 18.00 น. การประกวดการนำเสนอบทละคร ตามลำดับก่อนหลัง ตามที่จับสลากไว้แล้ว กลุ่มละ 30 นาที
-การประกาศผลการตัดสิน
คณะกรรมการสงวนสิทธิ์ที่จะมีการเพิ่มหรือลดจำนวน หรือประเภทของรางวัลที่จะตัดสินตามแต่สมควร คำตัดสินถือเป็นสิทธิ์ขาดทุกกรณี--จบ--
-สส-