กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--Winter Egency
บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมกรรมประกันภัยเพื่อผู้บริโภคมายาวนานและต่อเนื่องจนได้รับรางวัล Thailand ICT Excellence Award 2017 ด้าน Innovation ล่าสุดได้เพิ่มฟังก์ชันใหม่ สำหรับการใช้งาน "ประกันรถเติมเงิน" เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ นำโดยผู้บริหารรุ่นใหม่ คุณเทพพันธ์ อัศวะธนกุล ที่เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมประกันภัยให้มีความทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิตอล
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโยโลยีสมัยใหม่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด และผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใช้สมาร์ทโฟนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน "ประกันรถเติมเงิน" ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัยด้านเทคโนโลยี จึงได้เพิ่มฟังก์ชันใหม่สำหรับการใช้งาน โดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานประกันเปิด -ปิดได้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิด-ปิดเอง เพียงเชื่อมต่ออุปกรณ์ " TBeacon" ในรถยนต์ กับแอปพลิเคชั่น Thaivivat ไม่ว่าจะเดินทางเมื่อไหร่ก็สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวัลเรื่องการเปิด- ปิดประกันอีกต่อไป
คุณเทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่าสำหรับแนวคิดการพัฒนาฟังก์ชันใหม่เปิด-ปิดอัตโนมัติ "ประกันรถเติมเงิน" มาจากการเรียนรู้พัฒนาพฤติกรรมความต้องการและตอบโจทย์การใช้งานจริงของลูกค้า เพื่อเพิ่มความสะดวก ที่มาพร้อมกับสังคมในยุคดิจิตอลที่ถือว่าสมาร์ทโฟนเป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับชีวิตประจำวัน เราจึงได้พัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานและเพิ่มความสะดวกด้วยฟังก์ชัน เปิด –ปิด ประกันอัตโนมัติ โดยลูกค้าสามารถใช้งานผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ซึ่งจะทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Thaivivat เวลาขึ้นลงรถประกันก็จะเปิด -ปิดให้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลืมอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า "ประกันรถเติมเงิน" จะมีฟังก์ชันใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งานแต่ก็ยังสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยตนเองและเลือกตั้งเวลาได้เหมือนเดิม ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวกของการใช้งานของลูกค้าแต่ละท่าน หากไม่สะดวกในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนลูกค้าก็ยังสามารถเปิด-ปิดประกันผ่านแอปพลิเคชั่นได้เหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังเปิดเผยผลการการดำเนินการ หลังจากเปิดตัว"ประกันรถเติมเงิน" มาเป็นระยะกว่า 1 ปี พบว่าได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยมียอดขายเติบโตอย่างเป็นที่น่าพอใจ คิดเป็น 3 เท่าจากปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน โดยมีปัจจัยหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มีการตอบรับเทคโนโลยีด้านดิจิตอลและเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน หรือกลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ที่ให้ความสำคัญต่อการวางแผนการใช้เงินเพื่อความคุ้มค่าซึ่งประกันรถเติมเงินถือว่าตอบโจทย์ เนื่องจากสามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันมากกว่าถึง 40% และคนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้รถบนถนน เฉลี่ยประมาณ 2 - 4 ชั่วโมงต่อวัน หลังจากเรียนรู้พฤติกรรมและความเสี่ยงของลูกค้าของแต่ละกลุ่มจึงได้เพิ่มแพ็คเก็จความคุ้มครองเพิ่มขึ้นเป็นรายเดือน ,ราย 3 เดือน , ราย 6 เดือน และราย 12 เดือน จากที่เปิดใช้บริการเพียงแพ็คเก็จเดียว เพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งานของผู้บริโภคแต่ละท่าน หรือบางท่านมีรถมากกว่า 1 คันจำเป็นต้องจ่ายประกันถึง 2 คันต่อปีค่าใช้จ่ายจะยิ่งเพิ่มขึ้น ประกันรถเติมเงินจึงทำแพ็คเก็จที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้แบบรอบด้าน และที่สำคัญในด้านการบริการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้เอาประกันสามารถแจ้งเหตุด่วนได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Thaivivat ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องอธิบายเส้นทาง พนักงานจะมาถึงจุดเกิดเหตุได้ทันทีด้วยระบบ GPS และสามารถดูว่าพนักงานมาถึงไหนแล้ว จึงทำให้ผู้เอาประกันเกิดความไว้วางใจในการใช้บริการ
คุณเทพพันธ์ อัศวะธนกุล กล่าวต่อว่า ถึงแม้ปัจจุบัน "ประกันรถเติมเงิน" เพิ่งจะเปิดตัวไปเพียง 1 ปีกว่าและได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีจากผู้บริโภค แต่ในฐานะที่เป็นผลิตภันฑ์ประกันภัย เพื่อความพร้อมสำหรับการดูแลทุกท่าน จะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน และตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน ของผู้บริโภคได้ ซึ่งไทยวิวัฒน์เองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในด้านนี้ และจะไม่หยุดนิ่งที่จะศึกษาเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้การบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ภายใต้คอนเซป "คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต"