กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เตือนนายจ้างต้องจัดฝึกอบรมความปลอดภัยในการทำงานให้ลูกจ้าง ทุกคน ทั้งกรณีพนักงานใหม่ เปลี่ยนงาน เปลี่ยนเครื่องจักร ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 2 แสน
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน และลูกจ้างทุกคนได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้บริหารจัดการดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานได้อย่างปลอดภัย ทั้งในกรณีนายจ้างรับลูกจ้างเข้าทำงาน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ และสุขภาพอนามัยของลูกจ้าง โดยกสร. ได้ประกาศหลักเกณฑ์การอบรมโดยมีหัวข้อวิชา คือ 1.ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีระยะเวลาอบรม 1.30 ชั่วโมง 2.กฎหมายความปลอดภัย อาชีว อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระยะเวลาอบรม 1.30 ชั่วโมงเช่นกัน และ 3.ข้อบังคับว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งใช้เวลาฝึกอบรม 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ วิทยากรฝึกอบรมต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดคือเป็นผู้มีความรู้ มีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวข้องกับหัวข้อวิชาที่บรรยายไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานโดยตรงเกี่ยวกับการพัฒนาองค์ความรู้หรือมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงานไม่น้อยกว่า 1 ปี
อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า กรณีที่นายจ้างไม่สามารถจัดให้มีการฝึกอบรมได้ สามารถส่งลูกจ้างเข้ารับ การฝึกอบรมกับสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือหน่วยงานที่กสร.กำหนด หรือยอมรับได้ หากนายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ