กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--แสนสิริ
แสนสิริเดินหน้ารุก Innovation ในโครงการที่อยู่อาศัยเต็มสูบในปี'60 ส่งทีมแสนสิริดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเมนท์ (DSD) โชว์ผลงานการพัฒนา "Cooliving Designed Home" นวัตกรรมบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่า เซลล์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ปลอดภัยและ Go green เต็มรูปแบบ ภายใต้การวิจัยและพัฒนา (R&D) ไลฟ์สไตล์ในที่อยู่อาศัย เพื่อลูกบ้านแสนสิริโดยเฉพาะ ด้วยการสร้างสรรค์ 5 ฟังก์ชั่น 1.Solar Attic ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคา เพื่อช่วยลดความร้อนใต้หลังคา ทำให้ภายในตัวบ้านเย็นลง และลดการสะสมของเชื้อโรค 2.Breeze Panel ช่องระบายลมในตัวบ้าน ช่วยถ่ายเทและระบายอากาศในตัวบ้าน 3.Shading Screen ระแนงกันแดดที่ออกแบบโดยดูจากทิศทางของบ้าน 4.Texture Wall ผนังบ้านดีไซน์พิเศษที่มี Texture ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบพื้นผิว และ 5.UV Shield สีชนิดพิเศษ ช่วยกันความร้อน นำร่องโครงการแรกที่บ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด "บุราสิริ วัชรพล" มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้นที่ 7.89 ล้านบาท
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้แสนสิริได้รุกด้าน Innovation อย่างเต็มสูบ และได้มองหาโอกาสในการพัฒนาด้าน Innovation เพื่อการอยู่อาศัยใหม่ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง รวมถึงส่งผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าจากการที่แสนสิริจะมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ โดยล่าสุดได้ส่งทีมแสนสิริดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเมนท์ (DSD) และทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) พัฒนานวัตกรรมบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่าเซลล์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ปลอดภัยและ Go green เต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ "Cooliving Designed Home" สร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งหมด 5 ฟังก์ชั่น ได้แก่ 1.Solar Attic ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคา เพื่อช่วยลดความร้อนใต้หลังคา ทำให้ภายในตัวบ้านเย็นลง และลดการสะสมของเชื้อโรค 2.Breeze Panel ช่องระบายลมในตัวบ้าน ช่วยถ่ายเทและระบายอากาศในตัวบ้าน 3.Shading Screen ระแนงกันแดดที่ออกแบบโดยดูจากทิศทางของบ้าน เช่น ทิศเหนือหรือใต้ จะรับแสงแดดและลมต่างกัน จึงออกแบบให้เหมาะกับแต่ละทิศ 4.Texture Wall ผนังบ้านดีไซน์พิเศษที่มี Texture ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบพื้นผิว และ 5.UV Shield สีชนิดพิเศษ ช่วยกันความร้อน นอกจากนี้ยังมี Roof Shade ฝ้าชายคาหรือหลังคาที่ยื่นเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันแสงแดด รวมถึง Heat-Absorbing Green Glass กระจกเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนอีกด้วย
"นวัตกรรม "Cooliving Designed Home" จะทยอยพัฒนาในทุกโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริ โดยเปิดตัวใช้อย่างเต็มรูปแบบในโครงการแรก คือ "บุราสิริ วัชรพล" มูลค่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ "เศรษฐสิริ วัชรพล" ปัจจุบันปิดการขายแล้ว บนทำเลวัชรพลซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมากว่า 10 ปี โดยแสนสิรินับเป็นผู้บุกเบิกพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลนี้เป็นรายแรกๆ ด้วยการเปิดตัวโครงการ "นาราสิริ วัชรพล" บ้านเดี่ยวโครงการแรกของแสนสิริในทำเลนี้อีกด้วย นอกจากนี้ทำเลวัชรพลยังนับเป็นทำเลที่มีการเติบโตมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตลาดบ้านจัดสรรก็ขยายตัวมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยพบว่าอุปทานบ้านเดี่ยวในทำเลวัชรพล (สายไหม) มีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1,053 ยูนิตในช่วงครึ่งปีแรก 2559 มาอยู่ที่ 1,182 ยูนิตในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 หรือเพิ่มขึ้น 12% อีกทั้งพบว่าอัตราตอบรับของบ้านเดี่ยวในทำเลนี้ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก 2559 ซึ่งมีอัตราตอบรับ 43% มาอยู่ที่ 49% ในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 โดยเมื่อพิจารณาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่าอัตราตอบรับมีแนวโน้มที่ดีขึ้นทุกปี อย่างไรก็ตามภาพรวมบ้านเดี่ยวในทำเลนี้มีอัตราดูดซับอยู่ที่ 3.7 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ ทั้งนี้ระดับราคาที่เป็นที่นิยมในทำเลนี้คือระดับราคา 7.00-9.99 ล้านบาท มียูนิตเสนอขายจำนวน 724 ยูนิต มีอัตราดูดซับสูงถึง 7.09 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ
ขณะที่เมื่อพิจารณาถึงราคาที่ดินในบริเวณวัชรพล จากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ พบว่าโดยส่วนใหญ่ ราคาที่ดินมีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะช่วงถนนสุขาภิบาล 5 มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินสูงถึง 33-71% จากราคา 35,000-45,000 บาทต่อตารางวาในรอบการประเมินปี 2555-2558 มาอยู่ที่ 60,000 บาทต่อตารางวาในรอบการประเมินปัจจุบัน (รอบปี 2559-2562) หรือบริเวณถนนวัชรพล จากราคา 35,000-60,000 บาทต่อตารางวา มาอยู่ที่ 50,000-72,000 บาทต่อตารางวาหรือเพิ่มขึ้น 20-43% นอกจากนั้นจากข้อมูลของ AREA (Agency for Real Estate Affairs) พบว่าราคาซื้อขายที่ดินในบริเวณวัชรพล-ออเงินมีการปรับตัวโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 3%
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตละแวกนี้ ยังอยู่ใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้าถึง 3 สาย โดยใช้เวลาเดินทางจากถนนสุขาภิบาล 5 ไปยังสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 10-15 นาที ได้แก่ 1. สถานีสายหยุด โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) 2. สถานีรามอินทรา 31 โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (มีนบุรี-แคราย) และ 3. สถานีวัชรพล ซึ่งเป็นสถานี interchange ระหว่างสายสีชมพูและโครงการรถไฟ monorail สายสีเทา (วัชรพล-พระราม 9) ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แล้วเสร็จ 28% ส่วนสายสีชมพูอยู่ในระหว่างการคัดเลือกบริษัทเอกชน โดยทั้ง 2 สายคาดว่าเปิดให้ใช้บริการภายในปี 2563 และสายสีเทาจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2564
นอกจากนี้ทำเลวัชรพลเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากก็คือเป็นทำเลที่คึกคักและนับว่าเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกตอนเหนือ สะดวกในการเดินทาง สามารถเดินทางเข้า-ออก ทั้งในเมืองและชานเมืองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะบนถนน "สุขาภิบาล 5" เพราะถูกล้อมรอบไปด้วยทางพิเศษ และถนนสายหลัก ได้แก่ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่บริเวณ ถ.สุขาภิบาล 5 และยังอยู่ใกล้เคียงกับวงแหวนรอบนอก กาญจนาภิเษก ที่สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ชั้นนอกรอบๆกรุงเทพฯ ได้ นอกจากนี้ เส้นถนนสุขาภิบาล 5 ยังสามารถเดินทางไปยังถนนสายหลักอย่าง ถ.รามอินทรา, ถ.สายไหม และ ถ.พหลโยธิน โดยเชื่อมต่อกับ ซ.พหลโยธิน 50 ผ่าน ถ.เทพรักษ์ เส้นทางใหม่ที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการไปในช่วงเดือนธันวาคม 2558 นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าและไลฟ์สไตล์มอลล์ อาทิ ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์, เดอะ พรอมานาด, เพลินนารี่ มอลล์, เวนิส ดี ไอริส วัชรพล (Vennice Di Iris), เซ็นทรัล รามอินทรา, Index Living Mall, The Walk (เกษตร-นวมินทร์) Crystal Park รวมถึงสถานศึกษา ซึ่งมีทั้งโรงเรียน รัฐบาลและเอกชน อาทิ โรงเรียนสายอักษร, โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ (รามอินทรา34), โรงเรียนเลิศหล้า และAustralian International School รวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนนอรัล, โรงพยาบาลสินแพทย์ เป็นต้น
สำหรับโครงการ "บุราสิริ วัชรพล" เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นภายใต้แบรนด์บุราสิริ "Find Your Peace of Mind บ้านเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง" ตั้งอยู่บนถนนวัชรพล มีพื้นที่ 94 ไร่ ออกแบบคอนเซ็ปต์ "THE HIGH LIFE IN GREEN" ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นไม้ใหญ่ ทำให้โครงการสงบร่มรื่น ซึ่งเป็นโครงการแรกที่ได้พัฒนานวัตกรรม "Cooliving Designed Home" รวมถึงนวัตกรรมที่ใส่ใจผู้สูงอายุ Elder Care ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่สร้างสรรค์ให้ห้องนอนชั้นล่างปูด้วยพื้น Soft Fall กันกระแทก และไม่มีขั้นระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้ Wheelchair ก่อเกิดเป็นนวัตกรรมบ้านแบบใหม่ที่ผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ สวน 2 แห่งในโครงการ และระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีจำนวนทั้งสิ้น 242 ยูนิต มีทั้งหมด 5 แบบบ้าน พื้นที่ใช้สอย ขนาด 175-393 ตร.ม. พื้นที่ดิน 50.4-189.7 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 7.89 ล้านบาท เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24-25 มิถุนายน 2560 พร้อมจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดสูงสุด 2 แสนบาทเฉพาะในงานเท่านั้น