สมอ. เปิดรับฟังความคิดเห็น หลังแก้ไขมาตรฐานเครื่องตัดกระแสไฟ เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้บริโภค

ข่าวทั่วไป Tuesday June 13, 2017 16:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เครื่องตัดวงจรใช้กระแสเหลือแบบไม่มีอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟเกิน หรือ Residue Current Circuit Breaker (RCCB) ก่อนตราพระราชกฤษฎีกา นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) มีมติเห็นควรแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เครื่องตัดวงจรใช้กระแสเหลือแบบไม่มีอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟเกิน มอก. 2425-2552 หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า เครื่องตัดกระแสไฟ ให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้ประกาศให้ผู้มีส่วนได้เสียและผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องแสดงความคิดเห็นเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาต่อไป การทบทวนและแก้ไขมาตรฐานในครั้งนี้ เนื่องจากมาตรฐานประกาศใช้งานมาแล้ว พบว่ามีบางรายการไม่สอดคล้องกับการใช้งาน จึงได้แก้ไขเพิ่มเติมค่ามาตรฐานของกระแสเหลือใช้ทำงานที่กำหนดเท่ากับ 0.015 มิลลิแอมป์ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน IEC และเป็นไปตามความต้องการใช้งานยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องตามมาตรฐานดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ประสงค์จะแสดงความคิดเห็นให้แสดงความคิดเห็นพร้อมทั้งเหตุผลมายัง สมอ. ภายในวันที่ 23 มิถุนายน 2560 โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.tisi.go.th เพื่อ สมอ. จะนำข้อคิดเห็นดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อบังคับใช้ต่อไป เลขาธิการ สมอ. กล่าวทิ้งท้ายว่า การแก้ไขมาตรฐานเครื่องตัดกระแสไฟครั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามการแก้ไขดังกล่าว สมอ. จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหากมาตรฐานมีผลบังคับใช้ จึงขอเน้นย้ำว่าให้ผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับการแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานในครั้งนี้ ภายในระยะเวลาที่กำหนดคือ วันที่ 23 มิถุนายน 2560

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ