กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม กับกรมบังคับคดี (กบค.) กระทรวงยุติธรรม ร่วมมือดำเนินโครงการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับข้อมูลการจดทะเบียนเครื่องจักรและข้อมูลบุคคลล้มละลาย เพื่ออำนวยความสะดวกลดขั้นตอนการส่งหนังสือระหว่างสองหน่วยงาน และช่วยสนับสนุนกระบวนการบังคับคดีให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ ประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งลดปัญหาหนี้เสียสร้างเสถียรภาพทางการเงินของภาคอุตสาหกรรมให้มีสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของทั้งสองฝ่ายให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2560 นี้ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ร่วมกับกรมบังคับคดี จัดพิธีลงนามความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีนายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เป็นผู้ลงนาม เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องประชุม 509 กรมโรงงานอุตสาหกรรม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สารสนเทศโรงงานอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทร.0 2202 4138
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบหลากหลายรูปแบบให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยในปี 2560 ได้ขยายการพัฒนาระบบให้ครอบคลุมข้อมูลเกี่ยวกับการแจ้งยึดเครื่องจักรที่ถูกอายัดเพื่อไม่ให้ทำนิติกรรม โอน ย้าย ไถ่ถอน ซึ่งปัจจุบันต้องอาศัยเวลา ขั้นตอนการส่งหนังสือระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรมและกรมบังคับคดีในการยื่นเรื่องต่างๆ เกิดความล่าช้าและอาจจะก่อให้เกิดปัญหาหนี้เสีย สูญเสียเสถียรภาพทางการเงินของภาคอุตสาหกรรม ทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ตามกำหนด
นายมงคล กล่าวต่อว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้ร่วมกับกรมบังคับคดีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศผ่านอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สะดวกรวดเร็วและมีความแม่นยำในการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนเครื่องจักรและข้อมูลบุคคลล้มละลายของกรมบังคับคดี โดยเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสองหน่วยงานไว้ด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยความร่วมมือในครั้งนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลการจดทะเบียนเครื่องจักร สามารถตรวจสอบทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรที่จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ได้ โดยกรมบังคับคดีสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ยังสามารถส่งข้อมูลสถานะ การแจ้งยึดอายัดเครื่องจักรผ่านระบบการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน ได้อีกด้วยเพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานของกรมบังคับคดีในการตรวจสอบและรวบรวมทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลายได้อย่างถูกต้อง ทันต่อเหตุการณ์ และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เป้าหมายของการพัฒนาระบบดังกล่าวก็เพื่อแก้ปัญหาหนี้เสียและสร้างเสถียรภาพทางการเงินของภาคอุตสาหกรรมให้มีการจ่ายหนี้ตามกำหนด โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนากระบวนการบังคับคดีให้มีประสิทธิภาพ และลดขั้นตอนการส่งหนังสือระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรมกับกรมบังคับคดี อีกทั้งลดระยะเวลาในการรวบรวมทรัพย์สิน สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดก่อหนี้เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2560 นี้ นายมงคล กล่าวสรุป
ด้านนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี (กบค.) กล่าวว่า ระบบที่กรมฯ ร่วมมือกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมนั้นสามารถอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับบุคคลล้มละลายผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปิดเผยได้ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพ มีความถูกต้องรวดเร็วทันสมัย และปลอดภัย โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมสามารถนำไปใช้เพื่อประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลการแจ้งยึดเครื่องจักรได้เพื่อไม่ให้มีการทำนิติกรรมของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ โดยครอบคลุมถึงการระงับการจำหน่าย จ่ายโอนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรของบุคคลผู้ถือกรรมสิทธิ์ดังกล่าวอีกด้วย มีจำนวนเครื่องจักรที่ถูกอายัดแล้วรวม 235 เครื่อง มูลค่ากว่า 175,107,467 บาท
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สารสนเทศโรงงานอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทร. 02202-4138 หรือเข้าไปที่www.diw.go.th