กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
เป็นที่รู้กันว่าการวางแผนในการจัดกระเป๋าเดินทางที่ดีจะช่วยลดความกังวลของนักท่องเที่ยว ดังนั้นวางแผนการจัดกระเป๋าเดินทางทุกครั้งก่อนออกเดินทาง แต่หากคุณไม่มั่นใจว่าการจัดของตัวเองถูกต้องหรือไม่ Skyscanner (Skyscanner.co.th) ผู้นำด้านเสิร์ชเอ็นจิ้น หรือบริการค้นหาตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พักและรถเช่าออนไลน์ รวบรวมข้อควรรู้ในการจัดกระเป๋า พร้อมคำแนะนำจาก 3 บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่จะมาพูดถึง 4สิ่งที่ต้องติดกระเป๋าทุกครั้งในการท่องเที่ยว
ถึงแม้ว่าผู้ที่เดินทางเป็นประจำจะคุ้นเคยกับรายละเอียดของการโหลดกระเป๋ากระเดินทาง แต่ยังมีผู้ที่ไม่เข้าใจถึงความแตกต่างของกระเป๋าเดินทางที่โหลดขึ้นเครื่องกับกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องบิน หลายๆครั้ง สายการบินอนุญาตให้ถึอกระเป๋าที่มีขนาดไม่เกิน 22 นิ้ว และน้ำหนักไม่เกิน 7-10 กิโลกรัมขึ้นเครื่อง ดังนั้นควรนึกถึงกฎเกณฑ์ของกระเป๋าเดินทางก่อนเสมอเมื่อวางแผนการเดินทาง และนึกถึงของที่จะซื้อเพิ่มในระหว่างการเดินทางด้วย
นอกจากนี้ Skyscanner (สกายสแกนเนอร์) ยังแนะนำกฎเกณฑ์ในการเดินทางในแต่ละประเทศ พร้อมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้ามในการเดินทางไปต่างประเทศ ดังนี้
· นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสหรัฐอเมริกาไม่ควรล็อกกระเป๋าเดินทางเนื่องจากอาจจะมีการสุ่มตรวจ อย่างไรก็ตาม หากคุณที่ของมีค่าข้างในกระเป๋า และไม่สามารถที่จะไม่ล็อกกระเป๋าเดินทาง เราแนะนำให้คุณใช้กุญแจที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของสหรัฐอเมริกา หรือ TSA เพื่อหลีกเลียงการถูกตัดล็อกโดยเจ้าหน้าที่ตรวจค้นกระเป๋าซึ่งมักจะสุ่มตรวจกระเป๋าเดินทาง สำหรับกุญแจล็อก TSA นั้น คุณสามารถซื้อได้ที่สนามบิน และร้านขายกระเป๋าทั่วไป ซึ่งจะมีราคาแพงกว่ากุญแจทั่วไป
· นักท่องเที่ยวจะต้องไม่พกพาของเหลวเกิน 100 มิลลิลิตร ขึ้นเครื่องบิน ทั้งนี้ ของเหลวที่มีปริมาณ 100มิลลิลิตรหรือต่ำกว่า เช่น มาสคารา ครีม หรือน้ำดื่ม จะต้องถูกใส่ในถุงพลาสติกใสที่เจ้าหน้าที่สามารถเห็นได้ชัดเจน
· หากคุณจำเป็นต้องพกขวดยาที่มีปริมาณเกินกำหนดขึ้นเครื่อง จะต้องแจ้งเจ้าที่สนามบินก่อนออกเดินทางล่วงหน้า ถ้าเป็นยาชนิดเม็ด เราแนะนำให้คุณลองกล่องเก็บยาสำหรับ 7 วันเพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับการจัดยา และเจ้าหน้าที่สามารถเห็นได้อีกด้วย
· ผู้โดยสารเดินทางจากไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรจาก 13 ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาไม่สามารถพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็ปท็อป แท็บเล็ต กล้อง เครื่องเล่นดีวีดี หรืออุปกรณ์อื่นๆ ยกเว้นโทรศัพท์มือถือ ขึ้นเครื่อง
· ห้ามนำอาหารหรือผลไม้ที่มีกลิ่น เช่น ทุเรียน ขนุน หรือน้ำปลาขึ้นเครื่อง
· ไม่สามารถนำพาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) ที่มีความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAH ขึ้นเครื่อง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทและขนาดของกระเป๋าเดินทาง อีกทั้งข้อมูลอื่นๆที่คุณควรรู้ก่อนออกเดินทาง สามารถดูได้ที่ https://www.skyscanner.co.th/news/tips/cabin-luggage-guide-hand-baggage-sizes-and-weight-restrictions/
โดย 3 บล๊อกเกอร์ท่องเที่ยวชื่อดังของไทย ได้แก่ บีจากเพจJourney เจอนี่ ปิงจากเพจ Bliss Out There และนิ่มจากเพจ A Traveler Blog ยังมาร่วมเผยของ 4 สิ่งที่พวกเขาต้องพกติดตัวไปด้วยทุกครั้งที่เดินทาง ได้แก่
1. กล้อง: เป็นสิ่งที่บล็อกเกอร์ทุกท่านต้องพกติดตัวไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาสามารถถ่ายรูปที่สวยงามที่พบเจอ และยังสามารถเก็บภาพไว้เป็นความทรงจำอีกด้วย
2. ปลั๊กสามตรา/หัวแปลงปลั๊กที่ใช้ในต่างประเทศ: แต่ละประเทศมีหัวปลั๊กและเต้ารับที่ไม่เหมือนกัน การพกปลั๊กไปด้วยระหว่างเดินทางจะทำให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้ง บล็อกเกอร์ยังต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายประเภท จึงทำให้ต้องหมั่นชาร์ตอุปกรณ์ การใช้ปลั๊กสามตราจึงทำให้สามารถชาร์ตอุปกรณ์หลายๆเครื่องพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน
3. สมุดโน้ต: เพราะเราไม่สามารถเก็บทุกอย่างไว้ในกล้องถ่ายรูปได้ การพกสมุดโน้ตจึงเป็นสิ่งบล็อกเกอร์หลายคนชอบ เพราะสามารถบันทึกสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นไอเดีย ค่าใช้จ่าย หรือตารางการเดินทาง
4. หมวก: บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวจะต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆมากมาย หมวกจึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากเพราะสามารถป้องกันไม่ให้หน้าดำได้ และยังให้ประโยชน์ในด้านอื่นๆอีกด้วย เช่น หากเราไปเที่ยวยุโรปซึ่งหลายๆเมืองขึ้นชื่อว่ามีสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน บางครั้งอากาศร้อนมาก แต่ฝนอาจตกทุกเมื่อโดยไม่คาดคิด ดังนั้นการพกหมวกติดตัวจึงสามารถช่วยเราได้
ทั้งนี้ บล็อกเกอร์ทั้ง 3 ท่านกล่าวเพิ่มเติมว่านักท่องเที่ยวควรตรวจเช็คเอกสารที่ใช้ในการเดินทางให้ละเอียดก่อนออกเดินทางโดยเฉพาะหนังสือเดินทาง และเอกสารอื่นๆ ที่สำคัญควรดูวันเดือนปีในเอกสารให้ดีว่าถูกต้องและเป็นปัจจุบัน สำหรับการแพ็คกระเป๋า ควรเอาไปแต่ของที่จำเป็น โดยเฉพาะกล้องจะได้เก็บภาพบรรยากาศกลับมาเป็นความทรงจำ