กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--ธพว.
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย( ธพว.หรือ SME Development Bank ) กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดสัมมนาเชิงปฎิบัติการ ติดปีกธุรกิจ SME ธุรกิจบริการในยุคประเทศไทย 4.0จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นการจัดสัมมนาเปิดมุมมองการทำธุรกิจให้ก้าวทันสู่ประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาลโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจด้านท่องเที่ยวและบริการเป็นหัวใจสำคัญที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยที่จะต้องมีการปรับตัว โดยการต่อยอดความคิดและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น เพื่อขยายต่อยอดให้เติบโตและปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้ก้าวทันนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการจัดกิจกรรมสัมมนาในพื้นที่เชียงใหม่ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สามหลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการจัดในพื้นที่อุบลราชธานีและกรุงเทพฯ ตามลำดับ ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับดีมาก
ทั้งนี้การจัดสัมมนาดังกล่าว ธพว. มุ่งหวังนอกจากผู้เข้าร่วมรับการอบรมจะได้องค์ความรู้จากวิทยากรชั้นแนวหน้าที่จะมาปรับกระบวนการคิดเชิงกลยุทธ์และเทคนิคในการให้บริการแล้ว สิ่งสำคัญที่จะได้คือการสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้ประกอบการด้วยกันเองที่จะเชื่อมโยงธุรกิจติดปีกการตลาดระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีบริการทางการเงินจากธพว.เข้ามาเสริมที่จะช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1% ต่อปี และ 3 ปีแรกไม่ต้องผ่อนเงินต้น มีระยะเวลาผ่อนนานถึง 7 ปีเพื่อช่วยผู้ประกอบการพัฒนาธุรกิจไปสู่กลุ่ม S-Curve หรือธุรกิจที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของจังหวัด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น หรือสินเชื่อ SMEs Transformation Loan จะช่วยต่อทุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอียกระดับธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปีในช่วง 3 ปีแรก โดยมีระยะเวลากู้ยืมยาวนานถึง 7 ปีเช่นกัน
เชียงใหม่นับเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญของภาคเหนือโดยมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึงสองแสนล้านบาท ซึ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของภาคเหนือ และมีรายได้หลักเกิดจากธุรกิจท่องเที่ยวและบริการสูงเป็นอันดับสี่ของประเทศ เป็นเมืองที่มีศักยภาพมนต์เสน่ห์ที่จะดึงนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ธพว.คาดหวังว่าผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ที่มาจากหลากหลายธุรกิจทั้งโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ของที่ระลึก และร้านอาหาร จะเป็นจุดเริ่มต้นจุดประกายความคิดและสร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกันเป็นสังคมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ โดย ธพว. พร้อมให้บริการครบวงจร (SME - D Solution ) ต่อไป
"การสร้างเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญมากของคนทำธุรกิจในปัจจุบันที่จะอยู่ลำพังโดดเดี่ยวไม่ได้จำเป็นต้องมีไม้ค้ำยันธุรกิจพยุงเกื้อหนุนระหว่างกัน ทั้งผู้ประกอบการ พันธมิตร และธนาคารที่พร้อมเป็นที่ปรึกษาและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป" กรรมการผู้จัดการ ธพว.กล่าว