กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แถลงข่าวชี้แจงกรณีมีสื่อมวลชนหลายสำนักเสนอข่าวนักลงทุน 200 รายเข้าพบกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อ้างวายแอลจี หลอกลงทุนซื้อขายเทรดทองคำออนไลน์ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบทั้งทางธุรกิจและภาพลักษณ์บริษัทฯ จึงขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้วลูกค้ากลุ่มนี้มีประมาณ 10 กว่าราย เป็นลูกค้าที่ได้ซื้อขายทองคำแท่งกับบริษัท ฯ ประมาณปี 2554 และได้ทำการเปิดบัญชีและทำสัญญาซื้อขายทองคำแท่งกับบริษัท ฯ และรับทราบรายละเอียดของเงื่อนไขในการซื้อขาย การชำระราคา และส่งมอบทองคำแท่ง ทั้งนี้การกำหนดราคาการซื้อขายทองคำแท่ง ลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นผู้ตัดสินใจราคาเอง โดยอ้างอิงราคาทองคำตลาดโลกในขณะนั้น ซึ่งราคาตลาดโลกมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา (Real time) ลูกค้ากลุ่มนี้มีกำไรจากการซื้อขายทองคำแท่งตลอดมา
ต่อมาช่วงต้นเดือนเมษายน 2556 เกิดวิกฤตราคาทองคำในตลาดโลกลดลงอย่างมาก ทำให้ลูกค้าที่ทำการซื้อทองคำแท่งกับบริษัทฯในราคาที่สูงได้รับผลกระทบและเกิดผลขาดทุนจากภาวะการณ์ดังกล่าว ซึ่งลูกค้าทุกรายรับทราบถึงวิกฤตยอมรับผลขาดทุน และได้ชำระหนี้แก่บริษัทฯ ยกเว้นลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ยอมรับผลขาดทุน อีกทั้งได้ผิดนัดชำระหนี้ บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการฟ้องร้องลูกค้ากลุ่มนี้ เรียกค่าเสียหายจากการไม่ชำระราคา ซึ่งคดีส่วนใหญ่ศาลได้พิจารณาพิพากษาให้บริษัทฯชนะคดีและมีการบังคับคดีบางส่วนแล้ว ยกเว้นบางคดีศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากขาดพยานหลักฐานบางส่วนและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โดยการวินิฉัยคดีทั้งหมดของศาล ศาลได้พิจารณาแล้วว่าธุรกรรมการซื้อขายของบริษัทฯเป็นการซื้อขายแบบปกติและชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่การซื้อขายทองคำแท่งล่วงหน้า ไม่ใช่เป็นเรื่องของแชร์ลูกโซ่ และไม่ใช่เป็นการหลอกลวงหรือฉ้อโกงลูกค้าแต่อย่างใด โดย บริษัทฯ ได้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมส่งมอบพยานหลักฐานต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพิ่มเติมป็นที่เรียบร้อย ซึ่งบริษัทฯมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม โดยในระหว่างการชี้แจงต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษนี้ ลูกค้าของบริษัทฯยังสามารถดำเนินธุรกรรมกับบริษัทฯ ได้ตามปกติ
นางพวรรณ์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการซื้อขายทองคำแท่งระหว่างลูกค้ากับบริษัทฯทุกครั้ง มีขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ชัดเจน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ทั้งการยืนยันการซื้อขายทางโทรศัพท์ การบันทึกเทปการสนทนา การยืนยันคำสั่งซื้อขายระหว่างเจ้าหน้าที่และลูกค้า ตลอดจนจะต้องได้รับการยินยอมจากลูกค้า ในการตัดเงิน หรือการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขธนาคารแห่งประเทศไทยและไม่ได้ดำเนินธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่
"บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความสุจริต โปร่งใส ตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ และตระหนักเป็นอย่างดีถึงความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้าทั้งกลุ่มผู้ค้าทองคำ และลูกค้ารายย่อย จนบริษัทฯ สามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านนำเข้าและส่งออกทองคำแท่งของไทยมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯจึงขอให้ความมั่นใจแก่กลุ่มลูกค้าในการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ ด้วยจริยธรรมของผู้ประกอบการในแวดวงค้าทองคำที่มีชื่อเสียงมานานถึง 14 ปี" นางพวรรณ์กล่าวในที่สุด