กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 19 มิถุนายน 2560 เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 31 จังหวัด รวม 117 อำเภอ 556 ตำบล 3,708 หมู่บ้าน ประชาชน ผู้เสียชีวิต 7 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด โดยมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 21 จังหวัด รวม 95 อำเภอ 508 ตำบล 3,584 หมู่บ้าน 45 ชุมชน ทั้งนี้ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยด่วนแล้ว รวมถึงประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ โดยตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 19 มิถุนายน 2560มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัย 31 จังหวัด ได้แก่ พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร อุดรธานี สุโขทัย นครศรีธรรมราช สุพรรณบุรี เชียงใหม่ เลย ลำปาง สุราษฎร์ธานี ลำพูน ระนอง ชลบุรี ขอนแก่น นครสวรรค์ พิจิตร ร้อยเอ็ด สระบุรี ตากเพชรบูรณ์ อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ นครปฐม จันทบุรี สระแก้ว พังงา ลพบุรี และน่าน รวม 117 อำเภอ 556 ตำบล3,708 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 7 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด อยู่ระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยโดยมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จำนวน 21 จังหวัด ได้แก่ พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร อุดรธานี สุโขทัย นครศรีธรรมราช สุพรรณบุรี เชียงใหม่ เลย ลำปาง สุราษฎร์ธานี ลำพูน ระนอง ชลบุรี ขอนแก่น นครสวรรค์ พิจิตร ร้อยเอ็ด สระบุรี และตาก รวม 95 อำเภอ 508 ตำบล 3,584 หมู่บ้าน45 ชุมชน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านการดำรงชีพของผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการจัดหาอาหาร และน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอการดูแลสุขภาพอนามัยและรักษาพยาบาล รวมถึงการแจกจ่ายถุงยังชีพให้ครอบคลุมทุกครัวเรือน อีกทั้งฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวตังเกี๋ยและประเทศเวียดนามตอนบนทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น และทะลมีคลื่นลมแรงขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่ง ปภ. ได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป