กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 19 มิถุนายน 2560 เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 31 จังหวัด รวม 118 อำเภอ 558 ตำบล 3,724 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 7 รายปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด โดยมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 22 จังหวัด รวม 99 อำเภอ 514 ตำบล 3,544 หมู่บ้าน 45 ชุมชน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักบางแห่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ โดยตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 19 มิถุนายน 2560 มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัย 31 จังหวัด ได้แก่ พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร อุดรธานี สุโขทัย นครศรีธรรมราช สุพรรณบุรี เชียงใหม่ เลย ลำปาง สุราษฎร์ธานี ลำพูน ระนอง ชลบุรี ขอนแก่น นครสวรรค์ พิจิตร ร้อยเอ็ด สระบุรี ตาก เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ นครปฐม จันทบุรี สระแก้ว พังงา ลพบุรี และน่าน รวม 118 อำเภอ 558 ตำบล 3,724 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 7 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด อยู่ระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย โดยมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร อุดรธานี สุโขทัย นครศรีธรรมราช สุพรรณบุรี เชียงใหม่ เลย ลำปาง สุราษฎร์ธานี ลำพูน ระนอง ชลบุรี ขอนแก่น นครสวรรค์ พิจิตร ร้อยเอ็ด สระบุรี ตาก และนครราชสีมา รวม 99 อำเภอ 514 ตำบล 3,544 หมู่บ้าน 45 ชุมชน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านการดำรงชีพของผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการจัดหาอาหาร และน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอ การดูแลสุขภาพอนามัยและรักษาพยาบาล รวมถึงการแจกจ่ายถุงยังชีพให้ครอบคลุมทุกครัวเรือน อีกทั้งฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ และฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่ง ปภ.ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิด อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป