กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัด 6 จังหวัด แยกเป็นภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ฝั่งตะวันตก 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา และภูเก็ต เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักในช่วงวันที่ 24 -25 มิถุนายน 2560 ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมาก และช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้นประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยในช่วงวันที่ 24 – 25 มิถุนายน 2560 อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ระยอง (อำเภอเขาชะเมา อำเภอแกลง และอำเภอเมืองระยอง) จันทบุรี และตราด ภาคใต้ฝั่งตะวันตก 3 จังหวัด ได้แก่ระนอง (อำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์ อำเภอสุขสำราญ และอำเภอละอุ่น) พังงา (อำเภอกะปง อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง และอำเภอเมืองพังงา) ภูเก็ต (อำเภอเภอกระทู้ อำเภอถลาง และอำเภอเมืองภูเก็ต) ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเตรียมพร้อมรับมือฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยจัดเจ้าหน้าที่มิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะกรณีฝนตกหนักต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำฝนสะสม 90 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง และช่วงเวลาที่มีน้ำทะเลหนุนสูง ให้จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และพื้นที่ชายฝั่งทะเล ให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งการเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย การปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยกรณีอาศัยในพื้นที่น้ำท่วมขังและกรณีต้องอพยพออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป