กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายปฏิรูปภาคการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ สหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด บ้านซำจาน ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบอุปกรณ์การตลาดและเงินทุนให้กับสหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด ได้แก่ โรงรวบรวมน้ำนมดิบมาตรฐานปลอดภัย โรงงานผลิตอาหารสัตว์ รวมทั้งมอบเงินเพื่อดำเนินโครงการธนาคารโคนมทดแทนฝูง จำนวน 4.95 ล้านบาท มอบเงินเพื่อจัดซื้อยางพาราปูพื้นโรงเลี้ยงโคนม 1.99 ล้านบาท มอบเครื่องมือตรวจสารอัลฟาท็อกซินในน้ำนม 10 ชุด นอกจากนี้ยังได้มอบ ส.ป.ก. 4 – 01 ให้กับเกษตรกร 100 ราย พื้นที่ 850 ไร่ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน พร้อมกันนี้ได้กล่าวมอบนโยบายและพบปะเกษตรกรจำนวน 1,200 คน จากนั้น ได้เยี่ยมชมนิทรรศการภายในงานเกี่ยวกับผลสำเร็จจากการดำเนินนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร (ศพก.) การดำเนินนโยบาย Zoning by Agri-Map การบริหารจัดการน้ำ มาตรฐานสินค้าเกษตร เกษตรอินทรีย์ การส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ข้าว มะม่วง และผักปลอดภัย การดำเนินงานตามนโยบายแปลงใหญ่ของสหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด การส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer รวมทั้งได้เยี่ยมชมโรงผลิตนมโรงเรียนพร้อมกับชมการสาธิตการตรวจสอบคุณภาพนมโรงเรียน ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกับนักเรียน จำนวน ๕๐ คน
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายปฏิรูปภาคการเกษตรให้เกษตรกรมีรายได้และความภาคภูมิใจในอาชีพ เป้าหมายเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และยกมาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตร นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยจังหวัดขอนแก่น ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญต่าง ๆ ที่เห็นเป็นรูปธรรม 3 ด้าน ได้แก่ 1) การส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ มีจำนวนทั้งสิ้น 145 แปลง พื้นที่ 138,420.50 ไร่ เกษตรกร 15,987 ราย 13 ชนิดสินค้า ได้แก่ ข้าว พืชผัก มะม่วง ฝรั่ง มันสำปะหลัง อ้อย แปลงหญ้า ยางพารา ไม้ดอก/ไม้ประดับ จิ้งหรีด ปลานิล โคเนื้อ โคนม ซึ่งจากการดำเนินงานใน 4 ชนิดสินค้า เกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้รวม 49.57 ล้านบาท และเพิ่มผลผลิตรวม 46.12 ล้านบาท มีรายได้เพิ่มขึ้น 95.69 ล้านบาท 2) การสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer ได้สนับสนุนให้มีเกษตรกรรุ่นใหม่ จำนวน 90 ราย ให้เป็นผู้มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพการเกษตร สามารถนำองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผลิตสินค้าเกษตรกรมาใช้ในการพัฒนาการประกอบอาชีพ ซึ่งสอดรับกับแนวทาง Thailand 4.0 และ 3) การส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์โคนม ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดูแลส่งเสริมสหกรณ์โคนมทั่วประเทศ จำนวน 101 สหกรณ์ สมาชิก 41,128 คน มีปริมาณน้ำนมรวม 2,083.817 ตัน/วัน รวมทั้งสนับสนุนจัดซื้อแผ่นยาง ปูพื้นคอกสัตว์ 40 สหกรณ์ จำนวน 16,800 แผ่น เพิ่มปริมาณการใช้น้ำยาง 240 ตัน งบประมาณ 39.66 ล้านบาท ภายใต้ "โครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ" เพื่อเพิ่มการใช้ยางพาราและขยายแผ่นยางพาราปูพื้นคอกสัตว์ให้โคนมที่สุขภาพเท้าที่ดีได้ผลผลิตนมโคเพิ่มขึ้น
"ปัญหาที่ผ่านมาของสหกรณ์ พบว่า มักเป็นเพียงสถาบันการเงินสำหรับดำเนินการดำเนินธุรกรรมการเงินเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเข้ามาในการทำการเกษตรของสมาชิกมากเท่าที่ควร ผู้บริหารสหกรณ์มักหาโอกาสจากสหกรณ์ เช่น กรณีตั๋วปุ๋ยผี จึงได้มีนโยบาสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ คือ ยุบเลิกสหกรณ์ที่มีปัญหา พร้อมยกระดับสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งขึ้น โดยการจัดทำบัญชี ตรวจบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการทุจริต ในส่วนสหกรณ์การเกษตร มุ่งไปสู่การเกษตรแปลงใหญ่ซึ่งสหกรณ์การเกษตรมีพื้นฐานที่ดี เนื่องจากสมาชิกรวมกลุ่มกันอยู่แล้ว มีระบบการบริหารจัดการ มีแหล่งเงินทุน และมีการเชื่อมโยงตลาด" พลเอกฉัตรชัย กล่าว
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดขอนแก่น มีสหกรณ์โคนม จำนวน 3 สหกรณ์ มีปริมาณน้ำนมทั้งจังหวัดรวม 90 ตัน/วัน จำนวนโคนมทั้งจังหวัด 17, 779 ตัว ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เร่งยกระดับความเข้มแข็งสหกรณ์โคนมทุกแห่ง โดยสหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด เป็นสหกรณ์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเป็นสหกรณ์ระดับชั้น 1 ปัจจุบันมีสมาชิก 183 คน โคนมจำนวน 8,830 ตัว ปริมาณน้ำนมดิบ 44 ตัน/วัน พื้นที่สหกรณ์ 32 ไร่ ซึ่งเดิมสมาชิกสหกรณ์ประสบปัญหาคุณภาพน้ำนมไม่คงที่ ขาดแคลนเงินทุน ต้นทุนอาหารสัตว์มีราคาสูง มีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพโคนม ภายหลังได้นำนโยบายการยกระดับเกษตรกร และการปฏิรูปภาคการเกษตรไปดำเนินการหลายด้าน อาทิ กรมปศุสัตว์ส่งเสริมด้านการเลี้ยงโค การพัฒนาคุณภาพน้ำนม กรมส่งเสริมการเกษตรส่งเสริมการทำแปลงใหญ่หญ้าเนเปียร์ ส่งผลให้คุณภาพน้ำนมโคของสหกรณ์มีคุณภาพมากขึ้น ผลการดำเนินการ ปี 2559 มีรายได้ 19.71 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 11.87 ล้านบาท กำไร 7.84 ล้านบาท นอกจากนี้สหกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน โดยแปรรูปนมโรงเรียน จำนวน 18.47 ตัน/วัน ส่งให้โรงเรียนในพื้นที่ภาคอีสาน 7 จังหวัด จำนวน 1,000 แห่ง แจกนักเรียน 119,712 คน ทำให้สหกรณ์มีความเข้มแข็งมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยมีการเปรียบเทียบกับ ปี 2558 มีปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้นจาก 36 ตัน/วัน เป็น 44 ตัน/วัน อัตราสูญเสียน้ำนมลดลง จากวันละ 1 ตัน เป็น 0 (ศูนย์) ปริมาณน้ำนมเฉลี่ย/ตัว/วัน จาก 10 กิโลกรัม เป็น 13 กิโลกรัม ส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นรายละ 8,000 บาท/เดือน