กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมสานต่อนโยบาย National E-payment เพิ่มช่องการขายให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้ผู้ประกอบการทุกระดับรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่อง EDC และ SCB พร้อมเพย์ ในงาน SCB-FTI Factory Outlet ครั้งที่ 14: Chic Cafe มหกรรมการจัดแสดงและจำหน่ายสุดยอดสินค้าคุณภาพจากโรงงานกว่า 200 ราย ที่เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีไทยโชว์ศักยภาพให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เชิญชวนผู้สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสด ร่วมชิมและช้อปสินค้าคุณภาพของเอสเอ็มอีไทย ตั้งแต่วันที่ 26 – 30 มิถุนายน 2560 ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้าธุรกิจขนาดย่อม ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดได้เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีความทันสมัยและต้องการความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้เท่าทันแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต ในด้านของสถาบันการเงินเองมีความพยายามที่จะร่วมขับเคลื่อนทิศทางดังกล่าวผ่านการขานรับนโยบาย National E-Payment โดยร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินต่างๆ โดยการสนับสนุนการใช้บัตรผ่านเครื่องรับชำระเงิน (EDC) และการใช้งานพร้อมเพย์ ซึ่งปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์พยายามผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหันมาใช้เครื่อง EDC และ SCB พร้อมเพย์ อย่างจริงจังมากขึ้น หนึ่งในแนวทางผลักดันส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในครั้งนี้ ธนาคารได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น จัดงาน SCB – FTI Factory Outlet ครั้งที่ 14 ภายใต้แนวคิด Chic Cafe เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก และเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีได้สร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการกันเอง ตลอดจนยังเป็นโอกาสให้เอสเอ็มอีจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคโดยตรงในราคาโรงงาน
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปี 2560 ได้มีการคาดการณ์แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจไทยว่าจะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวที่ 3.3% โดยมีปัจจัยที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1) การบริโภคของภาคเอกชนที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราใกล้เคียงกับปีก่อน 2) ความต่อเนื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ การเสริมสภาพคล่องแก่เอสเอ็มอี การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมให้บรรยากาศการลงทุนของภาคเอกชนมีความสดใสมากขึ้น 3) ภาคส่งออกที่อาจจะพลิกกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อย ประมาณ 1.8% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ซึ่ง IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลก ปี 2560 จะเติบโตได้ 3.4% เทียบกับ 3.1% ในปี 2559 ส่วนแรงขับเคลื่อนสุดท้ายจะยังคงมาจากภาคท่องเที่ยว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะขยายตัว 8-10% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างรายได้ให้กับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมแล้วการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มสมดุลและกระจายไปยังหลายภาคส่วนมากขึ้น ขณะที่นโยบายการเงินจะยังอยู่ในระดับผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะต่อไป
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ได้กำหนดนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถเชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันอย่างยั่งยืนของ SMEs ผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ อาทิ คณะประชารัฐชุดส่งเสริม SMEStartup การส่งเสริมด้านการขยายตลาดผ่านโครงการ SME Proactive และการส่งเสริมเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านการ MOU ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ SME Bank และสินเชื่อประชารัฐเพื่อเอสเอ็มอี เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า สภาอุตสาหกรรมฯ และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มีความร่วมมือในการส่งเสริมให้มีการพัฒนาศักยภาพของเอสเอ็มอีไทยมาอย่างต่อเนื่องในหลากหลายมิติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการจัดงานแสดงสินค้า SCB – FTI Factory Outlet ที่เป็นการส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับเอสเอ็มอี และเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการจะสามารถประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของคนไทยสู่ตลาดได้ รวมถึงยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายภายในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการภายใต้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะมีรูปแบบการจัดงานที่แตกต่างไปทุกๆ ปี
นายเจน กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคที่ Digital เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำรงชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมทางการเงิน การซื้อขายสินค้า Online สภาอุตสาหกรรมฯ โดยสถาบันรหัสสากล จึงได้จัดทำ Application ที่ชื่อว่า "GS1 Smart Bar" ของสถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ในการตรวจสอบรายละเอียดสินค้า และข้อมูลการรับรองมาตรฐานต่างๆ ของสินค้า ได้สะดวกรวดเร็ว และเชื่อถือได้
"ส.อ.ท. ตระหนักถึงความสำคัญของ E-Payment ที่มีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโลกการค้าในปัจจุบันที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีอยู่ทั่วโลก การมีระบบการชำระเงินที่ง่ายและสะดวกจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งการก้าวไปสู่จุดดังกล่าวได้นั้นจำเป็นต้องสร้างค่านิยมเรื่องการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในสังคมไทยให้เกิดขึ้น ทุกภาคส่วนควรต้องร่วมกันผลักดันอย่างจริงจัง ซึ่งความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ และ ส.อ.ท. ในการจัดงาน SCB – FTI Factory Outlet ครั้งที่ 14 : Chic Cafe นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่คณะผู้จัดงาน ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ร่วมกันพัฒนารูปแบบการจัดงานให้มีความแตกต่างมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสสำหรับเอสเอ็มอีในการนำเสนอสินค้า พร้อมกับการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดพร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และยังเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการจะได้ประชาสัมพันธ์ และเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายซึ่งจะก่อให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา" นายเจน กล่าว