กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บอร์ด บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ TLUXE อนุมัติให้ลงทุน[1] โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ(Geothermal Energy) ประเทศญี่ปุ่น ที่พร้อมจำหน่ายไฟฟ้า COD ได้ทันที รวดเดียว 8 โครงการ เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 เมกะวัตต์ คิดเป็นเงินลงทุน 700 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 3/2560 และให้ศึกษาการลงทุนเพิ่มอีกทันที 3 โครงการที่พร้อม COD ต่อเนื่อง ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "กิติพัฒน์ ชลวุฒิ " เผยการลงทุน โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) เป็นไปตามนโยบายที่จะเปิดโรงไฟฟ้าให้ครบ56 เมกะวัตต์ ในปี 61 โดยเงินลงทุนมาจากกระแสเงินสดภายในบริษัทฯ และหรือการออกหุ้นกู้ การกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนดำเนินธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) เพิ่มอีก 8 โครงการ เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 เมกะวัตต์ โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท พร้อมทั้งอนุมัติให้ศึกษาการลงทุนเพิ่มอีกทันที 3โครงการ ที่พร้อม COD ต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการลงทุนธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ณ เมืองเบปปุ จ.โออิตะ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 3 โครงการ เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 เมกะวัตต์ ซึ่งได้ผลิตและจ่ายไฟCOD แล้ว เมื่อกลางปี 2559 ที่ผ่านมา และหลังจากบอร์ดอนุมัติลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ ส่งผลให้ บริษัทฯ มีการผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) เพิ่มขึ้นเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวมเท่ากับ 11 เมกะวัตต์ และสามารถรับรู้รายได้ COD ทันทีในไตรมาส 3/2560
"โครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นนโยบายการลงทุนต่อเนื่องของบริษัทฯ ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ (GEOTHERMAL) ถึง 56 โครงการ เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวมเท่ากับ 56 เมกะวัตต์ ภายในปี 2561" นายกิติพัฒน์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ( TLUXE ) กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการดำเนินการของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ทั้ง 11 โครงการ เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวมเท่ากับ 11 เมกะวัตต์ จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ มากกว่า 130 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้บริษัทฯคาดการณ์ว่าการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพสามารถดำเนินการ ได้ครบทั้ง 56 โครงการในปี 2561 ซึ่งจะผลักดันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่มเป็น 25% หลังโรงไฟฟ้าเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ครบทั้งหมด จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้ามีเพียง 1% และมีสัดส่วน EBITDA ที่ระดับ 75% จากทั้งหมด