กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--นานมีบุ๊คส์
โรงเรียนนอกจากจะเป็นสถานการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะทางวิชาการของนักเรียน ยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่จะบ่มเพาะให้เด็กเติบโตเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพได้เป็นอย่างดี การเตรียมพร้อมเยาวชนยุคใหม่ให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จึงเป็นหน้าที่สำคัญของครูไทยในปัจจุบัน สโมสรโรตารีปทุมวัน และสโมสรโรตารีในภาค 3350 ประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด จึงจัดงานอบรมเชิงปฏิบัติการ"พลิกแนวคิดการจัดการเรียนรู้ด้วย Stem สู่ Stream Approach เพื่อสร้างทักษะที่จำเป็นของชีวิตในศตวรรษที่ 21" โดยมี ฤทัย จงสฤษดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารค่ายวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาให้ความรู้และเสริมทักษะการสอนกับผู้อำนวยการ ครู และบรรณารักษ์ กว่า 100 คน ถึงวิธีการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน โดยเน้นการบูรณาการการสอนในห้องเรียนสู่ชีวิตจริง เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างมีประสิทธิภาพ
บุญเด่น อู่อุดมยิ่ง นายกสโมสรโรตารีปทุมวัน กล่าวว่า "คุณครูที่ดีจะเป็นผู้นำทางให้แก่เด็กอย่างแท้จริง เราจึงเชิญครูในโรงเรียนที่เราบริจาคหนังสือผ่านโครงการ Love Reading Love Rotary ที่เราได้บริจาคหนังสือแก่นักเรียนกว่า 17,000 คน ผ่านโรงเรียนต่างๆ มาตลอด 2 ปี มาเข้าอบรม เพื่อให้ครูได้เปิดความคิดใหม่ๆ และสามารถนำหนังสือที่มาต่อยอดเป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หนังสือนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน ทุกท่านคงเห็นด้วยกับผมว่าเด็กส่วนมากเรียนรู้ได้จากการอ่าน ดังนั้นหนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า นั่นคือจิตวิญญาณของความเป็นครูผู้ให้ กิจกรรมอบรมในครั้งนี้จึงจะช่วยสนับสนุนแนวคิดของเรา ที่มุ่งส่งเสริมเด็กไทยให้รักการอ่าน ซึ่งจะเป็นรากฐานที่ดีในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชนและพัฒนาประเทศชาติของเราสืบไป"
ภายในหลักสูตร ครูผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 100 คน จากโรงเรียนทั่วประเทศ ได้ร่วมกิจกรรม เริ่มต้นตั้งแต่ปูพื้นฐานการสอน STEM ในระดับปฐมวัยและประถมศึกษา สู่การเชื่อมโยงกับการอ่านหนังสืออย่างสอดคล้องกัน และกิจกรรมนำองค์ความรู้จากหนังสือมาลงมือปฏิบัติทดลองจริง เพื่อการถ่ายทอดความรู้สู่นักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาสาธิตกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ กิจกรรมถั่วเขียวในไซโล ด้วยวิธีการสร้างไซโลเพื่อกักเก็บเมล็ดถั่วเขียว โดยประยุกต์ใช้ความรู้ทางเรขาคณิตมาเป็นแนวทางการออกแบบกิจกรรมเล้าไก่พาเพลิน เป็นกิจกรรมที่นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาใช้ทดลองออกแบบสร้างเล้าไก่ในกระดาษหลากหลายรูปแบบ เพื่อหาคำตอบว่ารูปแบบใดจะใช้ในกักเก็บได้มากที่สุด ต่อด้วย กิจกรรมการจม-ลอย โดยนำผลไม้หลากชนิดมาทดลองลอยน้ำ เพื่อสังเกตผลลัพท์ที่แตกต่างกันในแต่ละชนิด ฝึกทักษะนักประดิษฐ์ ในกิจกรรมวงล้อหมุนตามลม ค้นหาคำตอบว่าทำไมวงล้อกระดาษจึงหมุนได้เอง ประชันไอเดีย ในกิจกรรมสนุกกับพันธุศาสตร์ ร่วมกันออกแบบหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ โดยสอดแทรกความรู้เรื่องดีเอ็นเอและสุดท้ายกิจกรรมสนุกกับโครงสร้างดีเอ็นเอด้วยถั่วฝักยาว เป็นตัวอย่างของการนำอุปกรณ์ใกล้ตัวมาใช้เป็นสื่อการสอน เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้เรียน ได้เข้าถึงแก่นขององค์ความรู้อย่างง่ายดาย
ฐิตินันท์ ลภบำรุง ครูผู้สอนสอนวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร.ร.วัดแสนเกษม เปิดเผยว่า"ด้วยความที่ดิฉันไม่เคยเข้าร่วมอบรมเกี่ยวกับความรู้เรื่อง STEM มาก่อน การมาร่วมกิจกรรมในวันนี้จึงทำให้ได้ปูพื้นฐานทำความเข้าใจเกี่ยวกับ STEM มากยิ่งขึ้น ว่าเป็นองค์ความรู้ที่ใกล้ตัว ไม่ใช่แค่ความรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เท่านั้น แนวทางของการอบรมในครั้งนี้ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับรายวิชาอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน เพราะแก่นหลักอยู่ที่การมุ่งส่งเสริมให้นักเรียนของเรามีทักษะการอ่านที่ดี และนำมาบูรณาการกับชีวิตจริงได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญวันนี้ดิฉันได้มีโอกาสได้ฝึกลงมือปฏิบัติในแต่ละกิจกรรม ซึ่งทุกกิจกรรมล้วนเป็นการทดลอง ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสอนนักเรียนของเราได้ทั้งสิ้นค่ะ"
ด้าน วงศิริ สอนสี ครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ร.ร.บ้านหนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า "การเข้าร่วมอบรมในวันนี้ ชอบกิจกรรมการทดลองทุกกิจกรรม เพราะเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการสอนนักเรียนได้ทุกกิจกรรม เช่น กิจกรรมสนุกกับพันธุศาสตร์ ที่เกี่ยวกับความรู้เรื่อง DNA ผ่านการนำเสนอที่เป็นรูปธรรมและเหมาะสำหรับเด็กในช่วงวัยเรียน ที่เขามักจะเบื่อหน่ายการนำเสนอแบบธรรมดา ซึ่งกิจกรรมนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เห็นว่า เรามีวิธีการที่หลากหลายมากในการนำเสนอองค์ความรู้ยากๆ ที่จะช่วยสร้างความเข้าใจให้กับเด็กอย่างง่ายและมีคุณภาพ แนวทาง STEM เหล่านี้เราสามารถนำกลับไปพัฒนาการสอนเด็กๆ ต่อไปนี้เราจะพัฒนากิจกรรมสอดแทรกเนื้อหาของเราเพิ่มขึ้นได้อีกค่ะ"
กล่าวได้ว่า กิจกรรมส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยแนวทาง Stem สู่ Stream Approach จะช่วยดึงดูดความสนใจของนักเรียน ให้ตื่นเต้นกับการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาให้เกิดทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการได้ด้วยตนเอง ซึ่งหน้าที่ของครูจึงต้องเป็นผู้จุดประกายทักษะของเด็กๆ ด้วยการเปิดโอกาสให้เขาเริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยการอ่านเพื่อนำไปสู่การต่อยอดทางด้านวิชาการ และต่อยอดจากโรงเรียนไปสู่การดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพนั่นเอง
กิจกรรมอบรมคุณครูและโรงเรียนยังมีจัดต่อเนื่องตลอดปี และสำหรับหน่วยงานหรือโรงเรียนที่ต้องการจัดอบรมและกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณภาพการเรียนการสอน นานมีบุ๊คส์สามารถออกแบบกิจกรรมในหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนทุกช่วงวัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2662-3000 ต่อ 5226, 4425, 4441 หรือ Call Center 02-662-3000 กด 1 และ www.nanmeebooks.com หรือwww.facebook.com/nanmeebooksfan