กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
หากจะยกย่องชาวสวนคลองจินดาด้วยสักคำหนึ่ง คำว่า "ไฉไล" คงเหมาะสมสุด เพราะจิตใจของคนที่นี่สวยงาม คำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภค พืชผักที่ปลูกก็มีหน้าตาน่ารับประทาน และรสชาติยังอร่อยจนผู้ได้ลิ้มลองต้องยกนิ้วให้ เพราะพวกเขาเข้าใจในธรรมชาติและสามารถใช้ประโยชน์จากต้นทุนทางทรัพยากรสร้างผลผลิตชั้นดีออกสู่ท้องตลาด
"SOOK Travel" โครงการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวส่งเสริมการมีสุขภาวะที่ดีทั้งกาย จิต ปัญญา และสังคม โดย ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ขอนำเสนอ "โรงเรียนชาวสวนคลองจินดา" อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสถานที่ท่องเที่ยวจุดประกายการสร้างสุขแบบไปเช้าเย็นกลับ ในสโลแกนการท่องเที่ยวว่า "ตะลุยสวนปลอดสารพิษ สัมผัสวิถีชีวิตชาวคลองจินดา"
ความน่าสนใจของที่นี่คือความไฉไลของผู้คนดังที่กล่าวในข้างต้น ซึ่งพื้นฐานสำคัญของการเป็นเกษตรกรที่รุ่งเรืองได้อย่างทุกวันนี้ คือ ความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีคลองจินดาไหลผ่านมาบรรจบกับแม่น้ำท่าจีน ทำให้เป็นดินปากแม่น้ำมีตะกอนทับถม ปลูกอะไรก็งอกงาม ประกอบกับของการทำสวนแบบ "ยกเน้ย" (การทำคันดินยกร่อง) ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากน้ำและความอุดมสมบูรณ์ของดินได้อย่างเต็มที่ ชาวคลองจินดาจึงสามารถสร้างผลกำไรจากการประกอบอาชีพชาวสวนจนร่ำรวยกันถ้วนหน้า และมีกำลังทรัพย์พอที่จะลงทุนกับเทคโนโลยีทางการเกษตร ตามมาด้วยสิ่งที่สร้างผลกระทบทั้งเชิงบวกและลบอย่างสารเคมี
แต่กระนั้นสิ่งสุดท้ายที่ตามมาจากความรุ่งเรืองในข้างต้น ระยะเวลาได้พิสูจน์ด้านลบซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณให้ชาวคลองจินดาได้ตระหนักและฉุกคิดขึ้นว่า "สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความยั่งยืน" ผลกระทบของสารเคมีกำลังทำลายคุณภาพชีวิตของทั้งผู้ปลูก ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และยังทำร้ายสุขภาพของผู้บริโภค พวกเขาจึงรวมตัวกันเป็น "กลุ่มคนทำเกษตรยั่งยืนคลองจินดา" โดยแนวทางการทำงานของพวกเขา ตัวแทนผู้นำกลุ่ม "คุณชุติมา น้อยนารถ" หรือ "พี่ชุ" ได้อธิบายว่า "เราแค่ย้อนกลับไปทำเกษตรวิถีดั้งเดิมดังที่บรรพบุรุษของเราได้เคยทำ"
การคืนสู่สามัญของชาวสวนคลองจินดากลุ่มนี้เอง คือ สิ่งที่ SOOK Travel ขอเชื้อเชิญให้ทุกท่านได้ลองไปตะลุยท่องเที่ยวและเก็บเกี่ยวความรู้ที่ใครก็สามารถนำกลับไปใช้ได้ โดย 3 สวนซึ่งมีความโดดเด่นแตกต่างกันที่เราขอนำเสนอ สวนแรกคือ "สวนวนเกษตรโกบล" ของ "คุณอุบล ศรีรัตนพิทักษ์" หรือ "โกบล" โดยโกได้อธิบายความโดดเด่นของสวนนี้ว่า "สวนนี้คือการคืนสู่สามัญโดยแท้จริง ด้วยการทำสวนแบบป่า มีพืชมากมายคอยผลัดเปลี่ยนออกผลผลิตให้พอกินพอขายตลอดทั้งปี สัตว์น้อยใหญ่มาอยู่อาศัยเติมเต็มความสมบูรณ์ มีทั้งตัวห้ำและตัวเบียน โกไม่ต้องดูแลอะไรเลย เพราะธรรมชาติเขาสามารถดูแลกันเองได้ นอกจากนั้นการทำสวนแบบป่าที่มีพืชหลากหลายและมีความสูงไล่ระดับกันยังเป็นปราการป้องกันสารพิษจากภายนอก ทำให้สวนแห่งนี้เป็นสวนปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ จนได้รับการรับรองจาก IFOAM (International Federation Of Organic Agriculture Movements)"
สวนที่สองคือสวนปลอดสารพิษ "บุษบายาหยี" โดดเด่นด้วยบรรยากาศสวยงามดึงดูดให้น่าเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ ของ "คุณบุษบา หลงสมบุญ" หรือ "พี่ตุ๊ก" โดยพี่ตุ๊กแนะนำสวนของตนว่า "สวนแห่งนี้เป็นสวนผสม มีการปลูกพืช 3 ระดับ ระดับแรกคือพืชคลุมดินหมุนเวียน เก็บไปก็ปลูกชนิดใหม่ขึ้นมาทดแทนผลัดกันดูแลดิน ระดับที่สองคือปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นาน เก็บเกี่ยวใบและยอดไปแล้วต้นก็ยังคงเติบโตต่อไป และระดับสุดท้ายคือพืชให้ร่มเงา ช่วยดูแลพืชด้านล่างและให้ผลผลิตไว้รับประทาน" สวนสุดท้ายคือสวนผลไม้ที่แม้การปลูกไม่ปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่รับรองเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค "สวนผลไม้ปลอดสารพี่ลิ" ของ "คุณมะลิ ยิ้มถนอม" หรือ "พี่ลิ" โดยพี่ลิอธิบายกลไกของสวนนี้ว่า "สวนแห่งนี้ในช่วงการติดดอกจะมีการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันความเสียหายจากแมลงอย่างทั่วถึง แต่ในระยะเวลาประมาณ 45 วัน หลังจากออกผลผลิตจะใช้วิธีการดูแลโดยการห่อผลผลิตและใช้สารอินทรีย์ในการดูแล ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวพืชผลทุกลูกจะปลอดสาร" จากที่กล่าวแนะนำข้างต้นโดยเจ้าของแต่ละสวนนั้น เป็นเพียงส่วนน้ำจิ้มเพื่อนำเสนอให้เห็นความน่าสนใจ ซึ่งทุกสวนสามารถยืนยันความสำเร็จของกลไกการทำงานได้จากการสามารถสร้างรายได้อย่างมั่งคั่งและยั่งยืน
หลังจากการเดินชมสวน เพื่อให้การท่องเที่ยวครบวงจรจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค อีกกิจกรรมหนึ่งที่ห้ามพลาดจึงเป็น "ความอร่อยแบบชาวสวน" ซึ่งลุงป้า พี่น้อง ที่นี่ภูมิใจนำเสนอเมนูเพื่อสุขภาพ ชวนผู้เข้าร่วมชมสวนเก็บพืชผัก ผลไม้ นานาชนิด แล้วมาเรียนรู้วิธีการปรุงแบบผสมโรงนำเสนอเป็นอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ที่รสชาติอร่อยและหน้าตาน่ารับประทานอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้กระทั่งเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ซึ่งไม่เคยรับประทานผักผลไม้มาก่อนยังกล้าลิ้มลองทั้ง ส้มตำอินทรีย์ จี๊ดจ๊าด สะใจ, เมี่ยงคำ ความกลมกล่อมแบบชาวสวน และเฟรชชี่สมูทตี้ เมนูคลายร้อนเหมาะกับอากาศบ้านเรา โดยจุดเด่นสำคัญคือวัตถุดิบเหล่านี้ล้วนเป็นผลผลิตตามฤดูกาล เน้นการรับประทานสดใหม่เพื่อคงคุณค่าทางอาหาร และยังลดการปรุงแต่งด้วยเครื่องปรุงรสที่มีสารเคมีซึ่งส่งผลร้ายในระยะยาวต่อสุขภาพเป็นส่วนประกอบอีกด้วย
กลุ่มตัวอย่างที่ได้ลองไป "ตะลุยสวนปลอดสารพิษ สัมผัสวิถีชีวิตชาวคลองจินดา" กับเราต่างประทับใจความไฉไลของคนที่นี่ เพราะทุกคนคือตัวอย่างของชาวสวนซึ่งหากใครได้พูดคุยสัมผัสวิถีชีวิตก็ต้องหลงรักในความคิด ความสามารถ ความเป็นคนอารมณ์ดีคุยสนุก ไม่หวงความรู้ และยังมีความใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่รับประทานผลผลิตของพวกเขา "SOOK Travel" โดย "สสส." จึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงในการบอกเล่าความน่ารักของพวกเขา และขอเชิญชวนทุกท่านมาลองสัมผัสประการณ์การท่องเที่ยวสร้างสุขที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าการมีสุขภาพดีเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ติดตามกิจกรรมของโรงเรียนชาวสวนคลองจินดาได้ที่ Facebook: โรงเรียนชาวสวนคลองจินดา และติดตามกิจกรรมของ SOOK Travel ได้ที่ Facebook: Sookcenter