กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
ในวันนี้ เคร็ก บาร์เร็ต ประธานและหัวหน้าคณะผู้บริหารของอินเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มและซิลิคอนสี่แบบ ที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทของอินเทลในยุคของการทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ต มร.บาร์เร็ต ได้เปิดเผยถึงแผนดังกล่าวต่อผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 5,000 คน ซึ่งประกอบด้วยนักพัฒนา วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคต่างๆ ในงาน อินเทล ดีเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม (Intel Developer Forum - IDF) พร้อมกันนี้ มร.บาร์เร็ต ยังได้เชิญชวน ผู้ร่วมประชุมให้ลงทุนร่วมกับอินเทลเพื่อโอกาสทางธุรกิจที่จะเติบโตต่อไปในระยะยาว แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจในระยะสั้นจะยังมีความไม่แน่นอนอยู่ก็ตาม
มร.บาร์เร็ต กล่าวว่า "อินเทอร์เน็ตเป็นหนทางสู่การเติบโตในอนาคต แม้ว่าบริษัทในแวดวงเทคโนโลยีอาจจะยังต้องเผชิญกับการลดลงของความต้องการของตลาดในสินค้าบางประเภท อยู่ก็ตาม แต่การเชื่อมต่อโลกเข้าหากันด้วยอินเทอร์เน็ตจะยังคงเป็นตัวผลักดันให้เกิด การเพิ่มความสามารถในการผลิต การสื่อสารรูปแบบใหม่ๆ และการออกสินค้าประเภทใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคตต่อไป ดังนั้นเราจึงควรลงทุนเสียตั้งแต่ตอนนี้เพื่อความสำเร็จในอนาคต"
"สถาปัตยกรรมทั้งสี่แบบของอินเทล ได้รับการออกแบบให้เป็นรากฐานของเทคโนโลยี เพื่อให้บริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมนี้สามารถสร้างบริษัทให้เติบโตขึ้นจากโอกาสต่างๆ ที่เกิดขึ้นจาก อินเทอร์เน็ตได้ นอกจากนี้ อินเทลยังมุ่งที่จะให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากองค์ประกอบสำคัญด้านสถาปัตยกรรมพื้นฐาน เพื่อใช้ในการผลิตอุปกรณ์ลูกข่าย อุปกรณ์เครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์ สำหรับสร้างนวตกรรมที่ดีกว่าเดิม ทำให้สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง" มร.บาร์เร็ต กล่าวเสริม
สถาปัตยกรรมทั้งสี่แบบของอินเทลซึ่งรองรับการใช้งานบนอินเทอร์เน็ตนี้ ทำให้บริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ได้อีกมาก มร.บาร์เร็ต ได้อธิบายถึงสถาปัตยกรรมการผลิตชิปแบบ IA-32 และ Intel Personal Internet Client Architecture (PCA) ว่าเป็นโซลูชั่นหลักของบริษัทสำหรับการประมวลผลเครื่องลูกข่ายทั้งแบบมีสายและไร้สาย ส่วนสถาปัตยกรรม Internet Exchange Architecture (IXA) ของอินเทลได้รับการออกแบบให้เสมือนมีแบบพิมพ์สำเร็จรูปสำหรับใช้ในการพัฒนาอุปกรณ์เครือข่ายเจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งจะช่วยให้สามารถป้อนผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว สำหรับสถาปัตยกรรม โปรเซสเซอร์ ไอเทเนียม และโปรเซสเซอร์ในตระกูลซีออน ได้รับการออกแบบให้ตอบสนองความต้องการด้านราคาและประสิทธิภาพสำหรับ โครงสร้างพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ตนอกจากนี้ มร.บาร์เร็ต ยังได้กล่าวว่า อินเทลกำลังมีการลงทุนอย่างมหาศาลในด้านเทคโนโลยีซิลิคอนและขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีโอกาสเติบโตต่อไปในอนาคต
"ในปีนี้ อินเทลจะใช้เงินลงทุนจำนวน 12,000 ล้านเหรียญในส่วนของการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนพัฒนาความสามารถใหม่ๆ ในด้านการผลิต เราเชื่อมั่นว่าการลงทุนดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้อินเทลสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตต่อไปในระยะยาว และในปีเดียวกันนี้ อินเทลจะเริ่มผลิตเวเฟอร์ขนาด 300 มิลลิเมตร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ใช้ทองแดงเป็นวัตถุดิบในการผลิต ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.13 ไมครอน และการใช้โฮสต์ของเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งจะทำให้อินเทลสามารถเร่ง การเกิดคลื่นลูกใหม่ของนวตกรรมในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนี้ได้เร็วขึ้น เรามุ่งที่จะนำเสนอเทคโนโลยีซิลิคอน ซึ่งจะเป็นพลังขับดันบนอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้กับอุปกรณ์เจนเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่จะมีตามมาในอนาคต" มร.บาร์เร็ต กล่าว
ในการแถลงครั้งนี้ มร. เจมส์ ออลชิน รองประธานด้านแพลตฟอร์มของกลุ่มบริษัท ไมโครซอฟท์ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีร่วมกับ มร.บาร์เร็ต ด้วยเช่นกัน โดย มร. ออลชิน ได้สาธิตประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ Windows XP ของบริษัท โดยรันบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพนเทียม โฟร์ โปรเซสเซอร์ ที่ทรงพลัง ไมโครซอฟต์จะแนะนำระบบปฏิบัติการดังกล่าวออกสู่ตลาดเร็วๆ นี้ การสาธิตครั้งนี้ ยังมีการแสดงตัวอย่างของอุปกรณ์ extended PC ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโลก อินเทอร์เน็ตเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่มีใช้ตามบ้าน โดยใช้พีซีเพียงเครื่องเดียว เพื่อขยายโอกาสในการใช้ประโยชน์รูปแบบใหม่ๆ เพิ่มเติมจากการใช้ฟังก์ชั่น การประมวลผลเดิมๆ
นอกจากนี้ มร. พอล โอเทลลินิ ซึ่งเป็นรองประธานบริหารของอินเทล ยังได้ขึ้นกล่าวบนเวทีงานไอดีเอฟในวันนี้ด้วยเช่นกัน โดยได้ทำการสาธิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่อินเทลจะแนะนำสู่ตลาด ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าให้แก่ผู้ร่วมประชุมได้รับทราบ มร. โอเทลลินิ กล่าวว่า "อินเทลมุ่งที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่เราจะพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในอนาคต เราจะยังคงเดินหน้าในแนวทางนี้ต่อไปเพื่อนำเสนอประสิทธิภาพให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในลักษณะที่ผู้ใช้ต้องการ"
มร. โอเทลลินิ ยังกล่าวต่อไปว่า เพนเทียม โฟร์ โปรเซสเซอร์ ที่ใช้เทคโนโลยีสถาปัตยกรรมย่อย NetBurst ได้รับการออกแบบตั้งแต่ฐานราก เพื่อให้มีประสิทธิภาพสำหรับการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงการเอ็นโค้ดเพลงและวิดีโอ ตลอดจนการใช้แอพพลิเคชั่น ที่มีกราฟิกมากๆ ปัจจุบัน เพนเทียม โฟร์ โปรเซสเซอร์ ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากขึ้นและอินเทลจะเริ่มผลิตในปริมาณมากเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดเร็วกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ มร. โอเทลลินิ ยังได้สาธิตประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่กำลังจะแนะนำ ออกสู่ตลาดอีกหลายรุ่นเพื่อใช้งานกับพีซีแบบพกพา รวมถึงการสาธิตต่อสาธารณชนเป็น ครั้งแรกเกี่ยวกับการสร้างโปรเซสเซอร์โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.13 ไมครอน และการประกาศวางตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับพีซีแบบกพกพารุ่นล่าสุดของอินเทล ซึ่งได้แก่ เพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ ความเร็ว 700 เมกะเฮิร์ตซ์ ที่กินไฟต่ำเพียงหนึ่งวัตต์เท่านั้น
"เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำตลาดโปรเซสเซอร์สำหรับพีซีแบบพกพาในทุกๆ เซ็กเม้นต์ อินเทลได้พิสูจน์ให้เห็นมาโดยตลอดถึงความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยีและความเป็นผู้นำในตลาดพีซีแบบพกพา ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นเรื่องการกินไฟต่ำ ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมหรือทั้งคู่ ก็ตาม" มร. โอเทลลินิ กล่าว
มร. โอเทลลินิ ยังได้กล่าวถึงตลาดเอ็นเตอร์ไพรซ์ที่มีความสำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็วว่า ความสำเร็จของอินเทลในตลาดระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ยังคงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยรายงานการวิเคราะห์อุตสาหกรรมมาเปิดเผยว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ตระกูล เพนเทียม ซีออน สามารถทำตลาดได้ถึงร้อยละ 85 ของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่จำหน่ายในปีที่แล้ว และอัตราการ เติบโตของตลาดเพนเทียม ซีออน โปรเซสเซอร์ ยังสูงถึงกว่าร้อยละ 50 ในปี 2543 ที่ผ่านมาด้วย และในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ของอินเทลได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีมาตลอดในฐานะผลิตภัณฑ์ชั้นแนวหน้าของวงการที่ให้ประสิทธิภาพที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา ปัจจุบันเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว ยังครองตำแหน่งอันดับสูงสุดสี่อันดับของการจัดอันดับโดยใช้เบนช์มาร์ก TPC-C อีกด้วย
"อินเทลมุ่งที่จะขยายบทบาทการเป็นผู้นำตลาดเซิร์ฟเวอร์ในปี 2544 โดยจะมีการแนะนำซีออน โปรเซสเซอร์ ที่อยู่ในกลุ่มของเพนเทียม โฟร์ และใช้ชื่อรหัสว่า ฟอสเตอร์ (Foster) ในไตรมาสที่สอง ฟอสเตอร์ จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า 1.5 - 2 เท่า เพราะได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้สามารถรองรับการทำงานปริมาณที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลและซับซ้อนได้" มร. โอเทลลินิ กล่าว
ไอเทเนียม โปรเซสเซอร์ ของอินเทลก็ยังได้รับความสนใจมากขึ้นเช่นกัน โดยมีแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์มากกว่า 300 ตัวที่ถูกสร้างให้รันบนโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ และยังมีซอฟต์แวร์อีก นับร้อยโปรแกรมที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ไอเทเนียม โปรเซสเซอร์ ของอินเทล จะมีความสำคัญต่อการใช้แอพพลิเคชั่นในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ในอนาคต ซึ่งเป็นผลจากความต้องการข้อมูลที่ถูกผลักดันโดยอินเทอร์เน็ต จำนวนข้อมูลที่เพิ่มขึ้นซึ่งต้องผ่านการประมวลผล ความต้องการความรวดเร็วในการตอบกลับ และการซื้อขายบนอินเทอร์เน็ตที่ให้ความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลมากกว่าเดิม
มร. โอเทลลินิ ยังได้สาธิตไอเทเนียม โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่นใหม่ซึ่งใช้ชื่อรหัสว่า แมคคินเล่ย์ (McKinley) ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยมี ดูแอน อี. ซิทซ์เนอร์ ประธานกลุ่มระบบคอมพิวเตอร์ของฮิวเล็ตต์-แพกการ์ด ร่วมสาธิตบนเวทีด้วย โดยใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ แมคคินเล่ย์ โปรเซสเซอร์ รันระบบปฏิบัติการระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์สามระบบด้วยกัน โอเทลลินิยังได้กล่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้อินเทลได้จัดส่งตัวอย่างแมคคินเล่ย์ โปรเซสเซอร์ รุ่นแรกให้กับคู่ค้าโออีเอ็มของอินเทลแล้ว และคาดว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้แมคคินเล่ย์ โปรเซสเซอร์ จะมีวางจำหน่ายในปีหน้า "เรารู้สึกภูมิใจอย่างมากกับความก้าวหน้าในการพัฒนาไอเทเนียม โปรเซสเซอร์ และแมคคินเล่ย์ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นแรกของเรา ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นศูนย์รวมความสำเร็จของอินเทลในอนาคต" มร. โอเทลลินิ กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ
อินเทล ดีเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม (Intel Developer Forum - IDF) เป็นงานประชุมด้านเทคนิคระดับชั้นนำของอินเทล ซึ่งประกอบด้วยงานสัมมนาและการสาธิตการใช้งานในห้องปฏิบัติการกว่า 250 รายการ ตลอดจนการสาธิตผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจำนวนมาก อินเทลจัดงานการประชุมไอดีเอฟปีนี้เป็นปีที่ 5 โดยจัดขึ้นปีละสองครั้ง เพื่อให้ข้อมูลโดยละเอียด เกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลงานสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของอินเทล แก่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ รวมทั้ง
ผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อิสระ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไอดีเอฟที่ จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงงานไอดีเอฟที่ประเทศอื่นๆ กรุณาดูได้ที่เว็บไซต์ http://developer.intel.com/idf นอกจากนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดของงานอินเทล ดีเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม ตลอดทั้งปีได้ด้วยการบอกรับเป็นสมาชิกนิตยสาร อินเทล ดีเวลล็อปเปอร์ อัพเดต แมกกาซีน ที่เว็บไซต์ http://developer.intel.com/update
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่ายและอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
* เครื่องหมายผลิตภัณฑ์ของบุคคลที่สามเป็นสมบัติของผู้มีสิทธินั้น ๆ
ติดต่อ:
คุณเพชราภรณ์ เจริญนิพนธ์วานิช คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ (66 2) 654-0654 โทรศัพท์ (66 2 ) 257 0300
e-Mail: petch.charoennibhonvanich@intel.com e-Mail: kanpirom@shandwick.th.com-- จบ--
-อน-