กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ดำเนินคดีผู้จ้างงานไปทำที่บ้านทาง จ.เชียงใหม่ เบี้ยวค่าตอบแทน เงินประกัน พร้อมเตือนผู้รับงานไปทำที่บ้านขอเอกสารการรับงานทุกครั้งป้องกันการหลอกลวง
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้รับงานไปทำ ที่บ้าน รวม 31 คน มายื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ว่าร้าน NYS Handmade ประกอบกิจการจ้างปักแผ่นเฟรมทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างงานโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนในงาน ที่รับไปทำที่บ้านและไม่คืนเงินที่เรียกรับหลักประกันการทำงาน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 47,509 บาท จากการสอบสวนพบว่าผู้จ้างงานมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ.2553 ซึ่งห้ามผู้จ้างงานเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายในการทำงานจากผู้รับงานไปทำที่บ้าน และต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้รับงานไปทำที่บ้านในขณะที่ส่งมอบงานที่ทำหรือตามกำหนดที่ตกลงกันแต่ไม่เกินเจ็ดวันนับแต่วันที่ส่งมอบงาน ทั้งนี้ พนักงานตรวจแรงงานได้ออกคำสั่งให้ผู้จ้างงานจ่ายเงินให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน แต่ผู้จ้างงานไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ดังนั้นจึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นดำเนินคดีกับผู้จ้างงานดังกล่าวต่อไป
อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตว่ามีงานให้ผู้รับไปทำที่บ้าน ซึ่งบางแห่งอาจเป็นการหลอกลวง จึงขอเตือนไปยังผู้รับงานไปทำที่บ้าน ประชาชนทั่วไปที่ต้องการหารายได้เสริมให้ระมัดระวังกลุ่มมิฉาชีพเหล่านี้ ก่อนที่จะรับงานใด ๆ ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้จ้างงานปฏิบัติถูกต้องตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ.2553 อาทิ กำหนดให้ผู้จ้างงานจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการรับงานไปทำที่บ้านมอบให้แก่ผู้รับงานฯ ซึ่งจะต้องมีชื่อที่อยู่ทั้งของผู้ว่าจ้างและผู้รับงานฯ อัตราค่าตอบแทน การห้ามผู้ว่าจ้างเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายจากผู้ว่าจ้าง รวมถึงไปถึงการห้ามจ้างผู้รับงานทำงานที่เป็นอันตราย เป็นต้น และเตือนให้ผู้รับงานฯ ขอเอกสารเกี่ยวกับการรับงานจากผู้ว่าจ้างทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐานและเป็นประโยชน์ในการใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไปได้