กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
กรมฝนหลวงและการบินเกษตรบินสำรวจพื้นที่การเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำสำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงและการสนับสนุนพื้นที่การเกษตร ไม่ให้ส่งผลกระทบกับพื้นที่น้ำหลาก น้ำท่วมขัง
วันที่ 21 มิถุนายน 2560 เวลา 12.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ในระยะนี้ จากสภาพอากาศดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางทำการบินสำรวจพื้นที่การเกษตรในบริเวณที่รับผิดชอบการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำและวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ โดยจากการบินสำรวจพบว่าพื้นที่การเกษตร ส่วนใหญ่ในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดนครสวรรค์ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว อ้อย มันสำปะสัง และข้าวโพด ซึ่งพื้นที่บางส่วนกำลังเริ่มทำการเพาะปลูก และมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอ นอกจากนี้มีพื้นที่การเกษตรบางส่วนของอำเภอตาคลี อำเภอตากฟ้า อำเภอท่าตะโก อำเภอชุมแสง อำเภอพยุหคีรี อำเภอไพศาล และอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์มีน้ำขัง และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณอำเภอเมือง อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย อำเภอวาปีปทุม อำเภอนาดูน อำเภอยาสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ ทำการเพาะปลูกข้าว มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากและมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงในภารกิจ เติมน้ำในเขื่อน และพื้นที่ที่ปริมาณฝนลดลงจนส่งผลกับพื้นที่การเกษตร โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ทางการเกษตรที่ไม่ต้องการน้ำ และพื้นที่น้ำหลาก น้ำท่วมขัง สำหรับประชาชนและผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องได้ที่ เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและ การบินเกษตร