อัญมณีและเครื่องประดับไทยได้เวลาออกสู่สายตาชาวโลกอีกครั้ง ในงานบางกอกเจมส์ฯ ครั้งที่ 27

ข่าวทั่วไป Friday February 16, 2001 14:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
งานบางกอกเจมส์ฯ ก้าวสู่ครั้งที่ 27 โดยสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับผู้จัดงาน ภายใต้การส่งเสริมของกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มในการจัดงาน ตั้งเป้าส่งออก ปีนี้เพิ่มขึ้น 10%
นายบรรพต หงษ์ทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ได้เปิดเผยว่า การจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ หรือ บางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 27 แล้ว เพื่อส่งเสริมภาคการตลาดให้กับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยความร่วมมือของ 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
"ในปีที่ผ่านมา ตัวเลขการส่งออกของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเติบโตขึ้นประมาณ 12% และแม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เศรษฐกิจโดยรวมของโลกยังถือว่าดีอยู่ และด้วยความพยายามของภาครัฐ คือ กรมส่งเสริมการส่งออก และภาคเอกชน คือ สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ที่ได้มีการส่งเสริมตลาดอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยอย่างเต็มที่ เราจึงสามารถคาดการณ์ได้ว่า อุตสาหกรรมนี้จะเติบโตขึ้นอีก 10%" อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเสริม
ทางด้าน ดร. สุณี ศรีอรทัยกุล นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ซึ่งเป็นตัวแทนการจัดงานภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย ได้แสดงถึงเจตนารมณ์ที่สอดคล้องกับกรมส่งเสริมการส่งออกว่า การจัดงานบางกอกเจมส์ฯ ครั้งที่ 27 ได้มีการเตรียมงานเป็นขั้นเป็นตอนต่อเนื่องจากการกระจายข่าวไปยังนานาประเทศ ในรูปแบบของบทความที่เกี่ยวกับการจัดงาน โดยได้รับการชื่นชมและการตอบรับเป็นอย่างดี จนทำให้ปัจจุบันงานนี้ก้าวขึ้นสู่ระดับนานาชาติในจำนวนงานที่มีอยู่ 4-5 งานทั่วโลก งานบางกอกเจมส์ฯ จึงถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมผู้ประกอบการชั้นนำเฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
"สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ครั้งที่ 27 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2544 โดยใช้สถานที่เดิม คือ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Hot World Event บนเนื้อที่กว่า 40,000 ตร.ม. ประกอบไปด้วยคูหาทั้งหมด 1,600 คูหา เพื่อรองรับยอดผู้ประกอบการที่แสดงความจำนงจำนวนกว่า 1,000 ราย จาก 50 ประเทศชั้นนำทั่วโลก อาทิ ฮ่องกง อิตาลี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมัน ไต้หวัน และประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น ลาว กัมพูชา ทั้งนี้แบ่งเป็นผู้ประกอบการจากต่างประเทศ 20% และผู้ประกอบการชาวไทย 80%" ดร. สุณีกล่าว
ส่วนรายละเอียดของการจัดงานนั้น นายณรงค์ ธรรมาวรานุคุปต์ อุปนายกสมาคมผู้ค้า อัญมณีไทยและเครื่องประดับ ได้ให้รายละเอียดว่า งานบางกอกเจมส์ครั้งที่ 27 นี้ มีการจัดแบ่งพื้นที่โดยใช้อาคารเดียวกันแต่แบ่งเป็น 2 ชั้น และมีการจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ โดยชั้นบน จะจัดแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับประเภททองคำ ตั้งแต่ 14 K - 24 K และเงิน ส่วนชั้นล่างจะจัดแสดงสินค้าของผู้ประกอบการชาวไทยประเภทพลอยร่วง เพชรร่วง พลอยเนื้ออ่อน พลอยเนื้อแข็ง ไข่มุก แพลตินั่ม เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต กล่องใส่เครื่องประดับ รวมทั้งคูหาของผู้ประกอบการจากต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เป็นต้น และประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากคูหาจำหน่ายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับแล้ว ยังมีคูหาที่เกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ในตลาดอัญมณีที่สำคัญ ได้แก่ BASEL, JCK จากสหรัฐอเมริกา, VICENZA จากอิตาลี, VOUGE จาก อิตาลี และอื่นๆ อีกมากมายจากทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น ภายในงานครั้งนี้ ยังมีการจัดคูหาแสดงผลงาน Hot 2001 Vol.2 ซึ่งเป็น ประดิษฐกรรมที่จินตนาการขึ้น เพื่ออวดสายตาชาวโลกด้วยรูปแบบที่หลากหลายกว่า 200 แบบ ซึ่งเป็นแฟชั่นล่าสุด โดยผู้ประกอบการชาวไทยที่ร่วมกันรังสรรค์ออกแบบผลงานขึ้น แสดงถึงวิสัยทัศน์ใหม่ของผู้ประกอบการอัญมณีไทย และยังมีการเชิญชวนให้ผู้ซื้อต่างประเทศร่วมโหวตตัดสินผลงาน Hot 2001 Vol.2 ที่โดดเด่นที่สุดด้วย และที่พิเศษสุดสำหรับงานนี้ คือ ผลงานของภาคเอกชนที่นำเสนอในคูหาพิเศษ เป็นคูหาแสดงผลงานของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีความร่วมสมัยซึ่งส่งผลงานเข้าประกวด ภายใต้ชื่อ The 3rd Thailand Jewelry Design Contest 2001: Fantastika โดยกรมส่งเสริมการส่งออก สมาคมผู้ค้า อัญมณีไทยและเครื่องประดับ และ Signity ทั้งนี้ ผลงานทั้งหมดจะนำออกแสดงแฟชั่นโชว์โดยนางแบบชั้นนำในช่วงบ่ายของวันเปิดงาน
นอกจากนั้น ทางผู้จัดงาน ยังจัดคูหาประมูลสำหรับผู้ที่สนใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความ สนใจ และสร้างความสำเร็จในการจัดงานครั้งที่แล้ว โดยในครั้งนี้ มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งเพชร พลอยร่วง และจิวเวลรี่ มูลค่านับพันล้านบาท ถูกนำมาออกประมูลในแบบ 'Close bid'
นอกเหนือไปจากอัญมณีและเครื่องประดับที่สวยงามแล้ว เพื่อเป็นการเสริมให้งานแสดง สินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับครั้งที่ 27 นี้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนยิ่งขึ้น ทางสมาคมฯ ยังได้ร่วมมือกับองค์กรและสถาบันต่างๆ จัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้ทางด้านการวิเคราะห์อัญมณี สถานการณ์ทางการตลาด และความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ แก่ผู้ส่งออกในปัจจุบัน รวมไปถึงผู้ที่กำลังจะเป็นผู้ส่งออก และผู้ที่สนใจทั่วไป โดยเชิญวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากสถาบันต่างๆ มาเป็นผู้บรรยาย ซึ่งการสัมมนานี้ จะจัดขึ้นตลอดระยะเวลา 4 วันของการจัดงาน
และยังมีการจัดนิทรรศการสำคัญ ณ บริเวณชั้นล่าง โดยสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ GIA, De Beers, กรมส่งเสริมการส่งออก, กรมทรัพย์สินทางปัญญา, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (ส.ก.ว.), มหาวิทยาลัย ศิลปากร, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, มหาวิทยาลัยบูรพา, กาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวง, สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งเอเชีย, สมาคมค้าทองคำ, สมาคมผู้ประกอบการเจียระไนเพชร
"สำหรับการอำนวยความสะดวกภายในงานนั้น ทางผู้จัดงานได้เตรียมพร้อมทางด้านนี้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Cyber Caf? ที่ครั้งนี้มีการเพิ่มจำนวนขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้จำนวนมาก รวมทั้ง VIP Lounge ทั้งนี้ จะจัด Cyber Caf? และ VIP Lounge ไว้ทั้ง 2 ชั้น นอกจากนั้น ยังมีการจัด Shuttle bus จำนวนกว่า 10 คันจากย่านใจกลางเมือง ได้แก่ สีลม สุขุมวิท มาสู่ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค ไว้บริการผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศด้วย และที่พิเศษสุดสำหรับการจัดงานในระดับนานาชาติ คือ การให้บริการ Coffee break แก่ผู้เข้าร่วมชมงานทุกท่าน ทั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย รวมทั้งการเตรียมอาหารนานาชาติหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Fast food อาหารยุโรป อาหารญี่ปุ่น อาหารมุสลิม หรืออาหารมังสวิรัติ" นายณรงค์ เผย
พิธีเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับครั้งที่ 27 จะมีขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2544 โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธี ซึ่งจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยแสดงถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ทั้งที่มาที่ไป และวิวัฒนาการของเครื่องประดับไทย โดยนำเสนอผ่านศิลปะพื้นบ้านจากแหล่งผลิตเครื่องประดับไทยจากทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ด้วยผู้แสดงนับ 100 คน และในช่วงบ่ายวันนั้น จะมีการแสดงแบบเครื่องประดับของผู้เข้าประกวด Fantastika พร้อมการมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดดังกล่าวด้วย
ส่วนในค่ำคืนวันที่ 1 มีนาคม ทางสมาคมฯ ผู้จัดงานได้เตรียมจัดงาน Welcome and Thank you Party โดยใช้ชื่องานว่า 'Thai Night' ภายใต้คอนเซปต์ 'งานวัดอินเตอร์' เพื่อต้อนรับ และขอบคุณผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ โดยรูปแบบงานจะครอบคลุมถึงศิลปวัฒนธรรมของไทย ซึ่งจะเป็นการจำลองห้องจัดงานให้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยพรั่งพร้อมไปด้วยความบันเทิงอันหลากหลาย ทั้งดนตรีและนักร้อง ในบรรยากาศที่เป็นกันเองอย่างที่สุด อันเป็นการบ่งชี้ถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นตามแบบฉบับของชาวไทย
งานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับครั้งที่ 27 หรือ บางกอกเจมส์ ครั้งที่ 27 นี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2544 ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดย 3 วันแรกของการจัดงานจะเป็นวันธุรกิจ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเข้าชมและเลือกซื้อสินค้า ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 18.00 น. ส่วนวันที่ 3 มีนาคมนั้น จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงานตั้งแต่เวลา10.00 น. - 17.00 น. โดยสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้เพียงคนละ 50 บาท เท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ศุภาดา ใจดี, วิสาข์ รอดคำดี, ดวงรัตน์ รัตนอำนวยศิริ
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 693-7835-8, 01-810-9314 โทรสาร 693-691--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ