กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--โมเดิร์นเทียร์
ศูนย์กระดูและข้อ "ไคโรเฮลท์" ปรับตัวเจาะกลุ่มผู้สูงอายุในภูมิภาคอาเชียน โดยนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยดึงดูดลูกค้า คาดช่วยดันรายได้ปี 60 โตไม่ต่ำกว่า 30 – 40% ขณะที่ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) ชี้ตลาดผู้สูงอายุมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเติมต่ออย่างต่อเนื่อง จึงจัดงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 ปูทางรับอานิสงค์พร้อมดึงต่างชาติ อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสวิสเซอร์แลนด์ ร่วมจัดแสดงสินค้านวัตกรรมสุดล้ำ
นายณัฐพล ชัยอุดม ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ศูนย์การแพทย์ทางเลือก ไคโรเฮลท์ แบงคอกกล่าวว่า ไคโรเฮลท์ คือศูนย์การแพทย์ด้านกระดูดและข้อ ที่นำศาสตร์การแพทย์เพื่อการป้องกัน ส่งเสริมและฟื้นฟูกระดูดและข้อสำหรับผู้สูงอายุ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ยา หรือการผ่าตัด พร้อมเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และคืนสุขภาพที่ดีให้กับผู้เข้ารับการรักษาอย่างแท้จริง เน้นการรักษาที่ต้นเหตุของปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่รักษาตามอาการ โดยนำหลักการทางด้านเวชศาสตร์กระดูกและข้อ เช่น ออร์โธปิดิกส์ ไคโรแพรคติก ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ด้านเวชศาตร์การกีฬา รวมทั้งการทำกายภาพบำบัดและการฟื้นฟูและโภชนาการบำบัดมาออกแบบการรักษาเจาะจงเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวไทย และต่างชาติ แบ่งเป็นชาวไทย 30% และชาวต่างชาติ70% อันดับ 1 คือกัมพูชา รองลงมาคือ เมียนมา และบรูไน ตามลำดับ โดยที่ผ่านมา ไคโรเฮลท์ มีผลประกอบการประมาณ 30 ล้านบาท คาดว่าปี 2560 นี้จะโตขึ้น 30 – 40% จากกระแสการบอกต่อเรื่องคุณภาพการให้บริการ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และผลสัมฤทธิ์จากการรักษา ประกอบกับการทำตลาดที่ใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น และกลยุทธ์เข้าถึงลูกค้าโดยตรงผ่านการออกบูธในงานแสดงสินค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย อย่างเช่นงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุระดับนานาชาติ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 กรกฎาคม 2560ณ ศูนย์แสดงสินค้า ไบเทค บางนา โดยงานดังกล่างจะช่วยเป็นช่องทางในการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และช่วยขยายธุรกิจไปในพื้นที่ต่างๆ ที่มีศักยภาพ อาทิ หัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญ และประเทศในกลุ่ม AEC
ด้าน นางสาวบุษยา ประกอบทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัดกล่าวว่า ประเทศไทยกำลังกว่าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีก6 ปีข้างหน้า คือจะมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุร้อยละ 25 ของประชากรทั้งหมด โดยจะเพิ่มมากขึ้นกว่าปัจจุบันที่มีเพียงร้อยละ 10 จากประชากร 66 ล้านคน ผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มีเพียงสวัสดิการต่างๆที่อาจจะเพิ่มผลประโยชน์หรือการเสนอขยายอายุการเกษียณราชการจากเดิม60 ปีเป็น65 ปี เพื่อรองรับเท่านั้น แต่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็เติบโตมาพร้อมๆกันอย่างปฏิเสธไม่ได้ จะเห็นได้จากประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการแพทย์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยทำให้สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้สูงวัยได้มากขึ้น โดยที่ผ่านมาคาดว่าสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี และเชื่อว่าภายใน 5 ตลาดกลุ่มนี้จะโตกว่า 3,000 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงได้จัดงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 (InterCare Asia 2017) จะขึ้นในวันที่ 6-8 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุและการเตรียมความพร้อมประเทศไทยเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยในงานจะมีการรวบรวมสิ่งของและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุรวมถึงสินค้าและบริการและเทคโนโลยีที่จะเข้ามาตอบโจย์ในช่วงสูงวัย ซึ่งจะแบ่งการจัดเป็น 5 โซน คือ
ภายในงานจะแบ่งพื้นที่จัดงานออกเป็น 5 โซน ได้แก่
1. โฮมแคร์ซึ่งจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ เช่น วีลแชร์ รีสแบนด์สำหรับผู้สูงอายุ อุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
2. รีแฮบบิทเทชั่นจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการดูแลช่วยเหลือและปกป้องผู้สูงอายุ เช่น หุ่นยนต์ผู้ช่วย
ศูนย์กระดูกและข้อ เครื่องช่วยฟัง
3. เมดิคัลทัวร์ริซึ่มหรือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สปา ฟิตเนส และสถานบริการนวดแผนไทย
4. ด้านบริการ จะมีสินค้าสำหรับดูแลและช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น Nursing Home วีลแชร์ติดตั้งบนรถสำหรับผู้พิการ โรงพยาบาลที่ดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
5.นิวทริชั่นฟู้ดส์ซึ่งจะมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารเสริมและสมุนไพร ทั้งของไทยและจีน
นอกจากนี้ จะมีการจัดแสดงสินค้าที่พัฒนาให้มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อสำหรับนำไปดูแล ช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ และคนพิการ โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ นวัตกรรมสำหรับการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ เบาะวีลแชร์ติดตั้งบนรถตู้ และเบาะวัดอุณภูมิ ความดัน สำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยคาดว่าตลอดระยะเวลา 3 วันจะมีผู้ร่วมงานทั้งสิ้น 5,000 คน เงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท
ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวสอดคล้องกับภาครัฐที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 และผลักดันให้มีการพัฒนาด้านนโยบายและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรม 5 กลุ่มพื้นฐานให้พัฒนาไปพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ทั้งกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป ท่องเที่ยว และเทคโนโลยีชีวภาพ
อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 จะเป็นอีกนิทรรศการที่อยากเชิญชวนให้ผู้ที่อยู่ในวัยรุ่นและวัยกลางคน เข้ามาชมงาน เพราะจะเห็นว่า สามารถนำอุปกรณ์ เครื่องมืออำนวยความสะดวกใหม่ๆ ไปช่วยดูแลอำนวยความสะดวกแก่บุคคลอันเป็นที่รักของท่านได้ หรือมีสถานบริการใดที่ท่านจะให้ความไว้วางใจในการดูแลผู้หลักผู้ใหญ่ของท่านได้ สำหรับผู้สนใจงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2012 ติดตามรายละเอียดได้ที่http://www.intercare-asia.com/