กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงวัฒนธรรม ครั้งที่ 6/2560 ที่กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อเร็วๆนี้ โดยที่ประชุมได้รับทราบข้อสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้กระทรวงต่างๆไปศึกษาวิเคราะห์และสรุปผลการศึกษาในการปรับโครงสร้างหน่วยงานสังกัดกระทรวงเสนอต่อรัฐบาล เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 และนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาลได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทั้ง 6หน่วยงานของกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (สป.วธ.) กรมการศาสนา (ศน.) กรมศิลปากร (ศก.) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) ไปศึกษาวิเคราะห์ การปรับโครงสร้างของหน่วยงาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค หลังจากนั้นรายงานสรุปผลการศึกษามายัง วธ. จากนั้นจะจัดประชุมเพื่อพิจารณาหาข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างในภาพรวมของกระทรวง เพื่อเสนอรัฐบาลต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้กำชับให้แต่ละกรมเร่งจัดทำร่างกฎหมายต่างๆ และจัดเวทีประชาพิจารณ์ให้แล้วเสร็จ อาทิ ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โบราณสถาน โบราณวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ. ... ร่างพ.ร.บ.หอสมุดแห่งชาติ พ.ศ. ... เป็นต้น เพื่อเสนอต่อรัฐบาล ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้รับรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2560 ไตรมาส 3 (เมษายน - มิถุนายน 2560) ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2560 โดยภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 68.69 ขณะที่งบลงทุนอยู่ที่ร้อยละ 79.65 ซึ่งผลการเบิกจ่ายของ วธ. อยู่ในอันดับที่ดีกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากทุกกรมสามารถเบิกจ่ายงบฯ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายวีระ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายและแผนงานของ วธ. ในปี 2561 อยากให้แต่ละกรมไปวางแผนงานขยายความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรมให้มีความเป็นสากลมากขึ้น อาทิ การยกระดับเทศกาลและประเพณีไทยที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดไปสู่ระดับนานาชาติให้มากขึ้น การร่วมมือกับสถานทูตประเทศต่างๆจัดงานเทศกาลและศิลปวัฒนธรรมของแต่ละประเทศในไทย รวมถึงการจัดประชุมและกิจกรรมด้านวัฒนธรรมระดับนานาชาติในประเทศไทย เช่น ดนตรี นาฏศิลป์ ศิลปะ เป็นต้นโดยเชิญประเทศในอาเซียนและประเทศต่างๆ เข้าร่วมงานเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและอาเซียนให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายไปทั่วโลก อีกทั้งช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเข้าสู่ท้องถิ่นและประเทศด้วย