กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--ทำเนียบรัฐบาล
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกเสนอ สรุปสภาพจราจรตามโครงการรณรงค์ "จอดรถไว้บ้าน เพื่อการประหยัดน้ำมัน" Car free day ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายลดการใช้พลังงานด้านการขนส่งตามโครงการรณรงค์ "จอดรถไว้บ้านเพื่อการประหยัดน้ำมัน" Car free day ในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2543 และจากการจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสภาพจราจร และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสรุปสถานการณ์จราจรได้ ดังนี้
1. ช่วงเร่งด่วนเช้า การจราจรยังคงติดขัด เคลื่อนตัวได้ช้าสลับหยุดยิ่ง เนื่องจากมีปริมาณรถมาก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน กับวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2543 แล้ว สภาพการจราจรจะดีขึ้นประมาณ 8 - 10% โดยการจราจรขาเข้าเมืองยังคงตัดขัด ณ บริเวณจุดสำคัญ ๆ และบริเวณหน้าโรงเรียนที่มีสภาพจราจรไม่แตกต่างกว่าวันอื่น ๆ
2. ช่วงเร่งด่วนเย็น การจราจรส่วนใหญ่ดีกว่าช่วงเร่งด่วนเช้า โดยในทุก ๆ ถนนการจราจรขาเข้าและออกเมืองเคลื่อนตัวได้ดี แต่ยังคงมีการจราจรติดขัดบ้างด้านขาออก แต่เคลื่อนตัวได้เรื่อย ๆ
3. จากการสำรวจสภาพจราจรบนถนนลาดพร้าว ระหว่างเวลา 6.30 - 8.30 น. ของวันที่ 22 กันยายน 2543 พบว่าความเร็วรถบนถนนดังกล่าวมีความเร็วเพิ่มขึ้น จาก 21.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เมื่อกรกฎาคม 2543) เป็น 22.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คิดเป็นค่าความเร็วที่ดีขึ้น 1.6 ก.ม./ช.ม.
4. ผลของความเร็วรถที่ดีขึ้นดังกล่าวหากใช้ถนนลาดพร้าวเป็นถนนตัวแทนของถนนสายต่าง ๆ ใน กทม. จะสามารถคำนวณการประหยัดความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้ตามมาตรฐานการคำนวณการลดความสูญเสียได้ 3 ล้านบาทดังนั้นใน 1 วัน จะสามารถประหยัดความสูญเสียได้ 67.2 ล้านบาท (คำนวณเฉพาะเวลาที่รถติดในแต่ละวันโดยใช้ พ.ศ. 2541 เป็นมาตรฐานสภาพจราจรหนาแน่นเฉลี่ยวันละ 14 ช.ม.) ทั้งนี้ หากสามารถดำเนินการได้ตลอดทั้งปีจะสามารถประหยัดความสูญเสียได้สูงถึง 20,160 ล้านบาท/ปี (คำนวณจากจำนวนวันที่มีการใช้พื้นผิวจราจรหนาแน่นเฉลี่ย 300 วันใน 1 ปี)--จบ--
-สส-