กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
ชี้ประเทศไทยคือปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญภายใต้นโยบาย Thailand 4.0
(จากซ้าย) นายสุรพงษ์ กอบประดิษฐ์กุล ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด, มร. อาชิช ดาฮิยา ผู้บริหารกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านกระบวนการผลิต ประจำภูมิภาค เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และโอเชียเนีย, มร. แอนเดอร์ส อันเดรน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ด้านออโตเมชั่นและนายวันชัย สุวรรณเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ณ บูธเต็ดตรา แพ้ค ในงาน ProPak Asia 2017
เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหารระดับโลก เผยวางเป้าหมายในการขยายธุรกิจกระบวนการผลิตอาหารในภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และโอเชียเนีย ให้เติบโตกว่า ร้อยละ 50 ภายในปี 2020 โดยบริษัทฯ ระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่มีศักยภาพในการเติบโต จึงพร้อมสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศและนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ ที่จะช่วยส่งเสริมนวัตกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 แผนพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ให้ความสำคัญกับ 'การเกษตรสมัยใหม่' และ 'นวัตกรรมอาหาร' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ[1] และยังเป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย Super Cluster ของรัฐบาล เพื่อพัฒนาการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้เป็นอาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เช่น อาหารรองรับสังคมสูงวัย และอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพ ขณะที่ตัวเลขในไตรมาสแรกของปี 2016 มีประชากรไทยกว่าร้อยละ 40 ที่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมและธุรกิจส่งออกอาหาร[2] เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 9.5 ทำให้ผู้ผลิตภายในประเทศมีความต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของอาหาร ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อส่งเสริมแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เต็ดตรา แพ้ค จึงได้กำหนดให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาค และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตไทย บริษัทฯ จึงได้จัดแสดงนวัตกรรมโซลูชั่นการผลิตและบรรจุอาหารครบวงจรล่าสุด ในงาน ProPak Asia 2017
• Tetra Pak® High Shear Mixer ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพสูงสุดในการผสมวัตถุดิบ หากแต่ช่วยลดต้นทุนการผลิต และลดการใช้พลังงานตลอดทั้งกระบวนการลงถึงร้อยละ 50
• Virtual Reality เทคโนโลยีระบบเสมือนจริงใหม่ล่าสุด ที่จำลองการทำงานของเครื่อง Tetra Pak's Homogeniser 500 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในกระบวนการผลิตระบบยูเอชทีแบบแลกเปลี่ยนความร้อนผ่านตัวกลาง ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเรียนรู้และเข้าใจการทำงานของเครื่องได้โดยไม่ต้องไปเยือนโรงงาน
• One Tetra Pak® Plant Master เป็น Automation Solutions ที่ถูกออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าควบคุมการผลิตทั้งระบบได้อย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่เมื่อวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิต ไปจนถึงขั้นตอนบรรจุกล่องและวางเรียงสินค้าบนพาเลท
"เต็ดตรา แพ้ค ให้ความสำคัญกับตลาดใหม่ที่กำลังขยายตัวในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะด้วยจำนวนของกลุ่มชนชั้นกลางที่เพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของเมือง และความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนความต้องการนวัตกรรมกระบวนการผลิตอาหารให้สูงขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของเราในด้านกระบวนการผลิตนม อาหารสำเร็จ ไอศกรีม และเครื่องดื่ม รวมทั้งโซลูชั่นการผลิตแบบครบวงจร ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกตลาดได้อย่างเฉพาะเจาะจง" มร. อาชิช ดาฮิยา ผู้บริหารกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านกระบวนการผลิต ประจำภูมิภาค เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และโอเชียเนีย กล่าว
การตั้งเป้าขยายธุรกิจกระบวนการผลิตถึง 50 % ภายในปี 2020 ยังสามารถสร้างการจ้างงานผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการผลิตในภูมิภาคเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 คน จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 800 คน การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของ เต็ดตรา แพ้ค แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการแบ่งปันความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกให้กับลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนความเติบโตอย่างยั่งยืนใปพร้อมกัน โดยในปี 2016 เต็ดตรา แพ้ค มียอดขายสุทธิทั่วโลกจากการบริการโซลูชั่นครบวงจรกว่า 11.4 พันล้านยูโร และมีเครื่องผลิตที่ปฏิบัติงานให้แก่ลูกค้ารวมกว่า 76,000 เครื่อง