กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--บลจ.ธนชาติ
บลจ.ธนชาติ เพิ่มทางเลือกในภาวะดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อย ด้วยการออกกองทุนใหม่ “กองทุนเปิดธนชาติพูนผลคืนกำไร” เน้นลงทุนระยะยาวในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และตราสารหนี้ของภาคเอกชนที่มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ กองทุนมีนโยบายคืนผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกหกเดือน และจะเปิดเสนอขาย 7-14 มีนาคมนี้
ม.ล.ผกาแก้ว บุญเลี้ยง กรรมการผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ธนชาติ จำกัด (บลจ.ธนชาติ) กล่าวถึงผลกระทบของดอกเบี้ยเงินฝากต่ำที่ทำให้ผู้ฝากเงินเดือดร้อนในขณะนี้ว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า ผู้ฝากเงินจำนวนมากได้เปลี่ยนจากการฝากเงินเพียงอย่างเดียวไปสู่การลงทุนปลอดภัยที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ดังจะเห็นได้จากยอดการทำประกันชีวิตที่เพิ่มขึ้น หรือกระแสความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาล และยอดจำหน่ายหุ้นกู้ที่หมดลงอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่า ผู้ออมรายย่อยเริ่มตื่นตัวกับการลงทุนมากขึ้น
ม.ล.ผกาแก้ว ชี้ว่า การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงควบคู่ไปด้วยอยู่เสมอ หากผู้ลงทุนรายย่อยขาดความชำนาญในการลงทุนในตราสารหนี้ ก็อาจจะมีผลขาดทุนตามมาได้โดยง่าย เพราะการลงทุนในตราสารหนี้นั้น ต้องมีการวิเคราะห์วิจัยความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของผู้ออกตราสารหนี้นั้น ๆ บลจ.ธนชาติ จึงนำเสนอ “กองทุนเปิดธนชาติพูนผลคืนกำไร” เพื่อเป็นเครื่องมือในการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยในตราสารหนี้ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อย
“กองทุนเปิดธนชาติพูนผลคืนกำไร” เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ไม่ประสงค์จะดำรงอัตราส่วนการลงทุนตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด ขนาดโครงการ 2,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาท โดยทุกหกเดือนจะเปิดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ เพื่อจัดสรรเงินรายได้ของกองทุนกลับคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน โดยจะเปิดให้ผู้สนใจจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 7-14 มีนาคมศกนี้
“การลงทุนในช่วงแรกของกองทุนในขณะที่วิกฤติการเงินยังคงมีอยู่ คือการให้น้ำหนักการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรรัฐวิสาหกิจมากกว่า เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของเงินลงทุน และอีกส่วนหนึ่งจะลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนชั้นนำ ที่คัดเลือกแล้วว่ามีความมั่นคงทางการเงิน” ม.ล. ผกาแก้ว กล่าวถึงนโยบายการลงทุนในระยะแรก
ม.ล.ผกาแก้ว เปิดเผยถึงจุดมุ่งหมายในการจัดตั้งเป็นกองทุนเปิดที่มีกำหนดอายุเลิกโครงการใน 5 ปีว่า เนื่องจากตราสารหนี้ที่กองทุนจะเข้าลงทุนนั้นเป็นตราสารหนี้ระยะยาว ซึ่งจะให้กองทุนได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากดอกเบี้ยของตราสารหนี้ที่ลงทุน บลจ.ธนชาติ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้มากนัก และถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเปลี่ยนไปหลังจากนั้น “กองทุนเปิดธนชาติพูนผลคืนกำไร” ก็ยังสามารถปรับการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตลาดเงินได้ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุน ที่จะปกป้องความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่อาจขยับตัวสูงขึ้นได้
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของกองทุน หรือขอรับหนังสือชี้ชวนของ “กองทุนเปิดธนชาติพูนผลคืนกำไร” ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปที่ บลจ.ธนชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 263-0800--จบ--