กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
DRT มองตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังแนวโน้มผันผวนสูง หลังแรงงานต่างด้าวทยอยกลับถิ่นฐานจากความไม่แน่นอนในการบังคับใช้ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว หวั่นกระทบภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างที่อยู่อาศัยและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างชะลอตัว เดินหมากแก้เกมชูกลยุทธ์บริหารโปรดักต์มิกซ์รักษาอัตรากำไรขั้นต้น พร้อมรุกทุกช่องทางขาย ให้ได้ตามเป้า ด้านผู้บริหารแง้มผลงานครึ่งปีแรก อัตราการใช้เครื่องจักรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80-90% แม้กำลังซื้อไตรมาส 2/60ชะลอตัวจากเทศกาลวันหยุดยาวทำตลาดวัสดุก่อสร้างซึม
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์'ตราเพชร' เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มความต้องการใช้ตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลังของปีนี้ ยังมีความผันผวนค่อนข้างสูง ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนกรณีที่รัฐบาลไทยจะบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 โดยเพิ่มบทลงโทษนายจ้างและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่รุนแรงขึ้น ถึงแม้ว่าล่าสุดภาครัฐได้ออก ม.44 ผ่อนปรนยืดเวลาให้เวลาแรงงานต่างด้าวไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่จากความไม่แน่นอนในครั้งนี้ทำให้แรงงานต่างด้าวบางส่วนเลือกเดินทางกลับถิ่นฐาน เพื่อรอความชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่อยู่อาศัยต้องล่าช้าออกไปเนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก และมีผลต่อภาพรวมความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับปัจจุบันเข้าสู่ช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการขายสินค้าวัสดุก่อสร้างมีผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวลงบ้าง ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดวัสดุก่อสร้างจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดรับกับทิศทางของตลาดวัสดุก่อสร้าง
สำหรับ DRT นั้น บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การบริหารจัดการสินค้าที่หลากหลาย (Product Mix) เพื่อผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมุ่งทำตลาดสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตที่ดีมากยิ่งขึ้น ตลอดจนมุ่งเน้นผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางขายทั้งห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย กลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์และตลาดต่างประเทศ พร้อมนำเสนอบริการติดตั้งระบบหลังคาแบบครบวงจรเพื่อกระตุ้นการขายอย่างเต็มที่
"เราคงต้องทำการตลาดเชิงรุกทุกช่องทางการขายอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังท่ามกลางภาวะตลาดที่เชื่อว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น จากบรรยากาศของตลาดวัสดุก่อสร้างที่น่าจะชะลอตัวลง โดยเรามีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการใช้เครื่องจักรทั้งปีเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 80% รวมถึงการบริหารโปรดักต์มิกซ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรต่อหน่วยและรักษาขีดความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น" นายสาธิต กล่าว
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวว่า ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีแรก บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาอัตราการใช้เครื่องจักรเฉลี่ยอยู่ในระดับ 80-90% แม้บรรยากาศและกำลังซื้อผู้บริโภคได้ชะลอตัวลงในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากเทศกาลวันหยุดยาว แต่ในส่วนของช่องทางการขายผ่านกลุ่มห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้ประกอบการบางรายมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การจัดชั้นวางสินค้าที่สามารถสร้างความโดดเด่น เพื่อผลักดันการขายสินค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการนำสินค้าไปใช้ตกแต่งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคให้การยอมรับและให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าจากแบรนด์ตราเพชร ที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือกพร้อมใช้งาน ส่งผลให้ DRT ได้เร่งผลิตสินค้ากลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีอัตราการใช้เครื่องจักรในผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ใกล้เต็ม 100%แล้ว