กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาเกษตรกร ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovative Agriculture : InnoAgri) นำร่องส่วนภูมิภาค โดยมี นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ตลอดจนผู้บริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่ และพี่น้องเกษตรกรร่วมให้การต้อนรับ ณ เทศบาลตำบลบึงบูรพ์ ต.บึงบูรพ์ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดงานว่า โครงการ InnoAgri เป็นโครงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายในกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้แก่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) และกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ร่วมกับ สภาเกษตรกรแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรของประเทศ ซึ่งการพัฒนาประเทศที่ต้องขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมนั้น สอดคล้องกับทิศทางของประเทศไทย 4.0 ภายใต้แนวทางการปรับเปลี่ยนการเกษตรแบบเดิม (Traditional Farming) ซึ่งใช้แรงงานเป็นหลัก ไปสู่การพัฒนาด้วยระบบบริหารจัดการและการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (Smart Farming) เน้นการเข้าถึงและใช้ประโยชน์เทคโนโลยีการเกษตรของเกษตรกรรายย่อยและกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าร่วมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของเกษตรแปลงใหญ่
ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการ วว. กล่าวถึงการดำเนินงานของโครงการ InnoAgri ว่า จะดำเนินโครงการผ่านรูปแบบกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ได้แก่ 1.ยกระดับเกษตรกรเป็น เกษตรกรไฮเทค (InnoAgri farmer) ที่สามารถนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.)ที่ เหมาะกับยุคสมัยใช้สำหรับการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ 2.ยกระดับเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร (InnoAgri Entrepreneur) ด้วย วทน. ใช้สำหรับสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตผล และ 3.สนับสนุนการสร้างเกษตรนวัตกรรมยั่งยืน (InnoAgri Sustainability) ด้วยการสร้างชุมชนเกษตรนวัตกรรม (InnoAgri village) ที่มีความสามารถในการนำ วทน. มาใช้เพิ่มผลิตภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่า ที่เน้นสร้างทายาทเกษตรกรและเกษตรกรรุ่นใหม่ในชุมชนผ่านระบบการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านระบบฐานข้อมูล InnoAgri datahub จนเกิดเป็นเกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จต้นแบบ InnoAgri champion
โดยมีเป้าหมายการดำเนินโครงการ ดังนี้ 1.มีเกษตรกรรายย่อยและกลุ่มเกษตรกรได้รับการพัฒนาให้เป็นเกษตรกรสมัยใหม่ (Smart farmer) จำนวน 3,000 ราย และนำไปใช้ประโยชน์ 1,500 ราย สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ร้อยละ 20 2.เกษตรกรสามารถพัฒนาและยกระดับเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรจำนวน 200 ราย ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกระดับ/มีผลิตภัณฑ์ใหม่ 20 ผลิตภัณฑ์ 3.ชุมชนต้นแบบเกษตรแบบครบวงจรที่ได้นำ วทน. มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา 2 ชุมชน และ 4.ฐานข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบคลังความรู้ (InnoAgri Datahub) 1 ฐานข้อมูล
กลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ InnoAgri จะต้องมีคุณสมบัติ คือ 1.เป็นเกษตรกรรายย่อยที่มาจากสภาเกษตรกรและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เป็นบุคคลที่มีศักยภาพในการรับรู้เร็ว และ มีประวัติการนำเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดไปใช้จริง 2.เป็นเกษตรกรรายย่อยที่มาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เป็นบุคคลที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะพัฒนาเป็นผู้ประกอบการเกษตร มีศักยภาพในการชำระเงินกู้ และ 3.ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของพื้นที่
การดำเนินโครงการในปีพ.ศ. 2560 มุ่งเน้นการจัดงาน InnoAgri รายภูมิภาคต่างๆ คือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในรูปแบบการให้ความรู้ผ่านเวทีการประชุม สัมมนา การเรียนรู้ผ่านการสาธิตเชิงปฏิบัติการนิทรรศการจัดแสดงเทคโนโลยีของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงพันธมิตร (Supply Side Science Technology and Innovation) และเกษตรกรในแต่ละภูมิภาค นำเสนอความต้องการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Demand Side Science Technology Innovation) รวมถึงแนวความคิดเทคโนโลยีที่ต้องการพัฒนา จากโจทย์ความต้องการที่แท้จริง รวมทั้งการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยตรงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันทางการศึกษา สถาบันทางการเงิน และหน่วยงานต่างประเทศ ภายในนิทรรศการหลักของงาน ซึ่งนอกจากความรู้ที่มอบให้แล้วทางโครงการ ยังมีการจับคู่เทคโนโลยี (STI Matching) การแสดงผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยและพัฒนา เครื่องมือ เครื่องจักร และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากหน่วยงานภายในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยงานราชการ มหาวิทยาลัย เอกชน
สำหรับกิจกรรมนำร่องของโครงการ InnoAgri ได้เริ่มต้นระหว่างวันที่ 12-16 กรกฎาคม 2560 ณ เทศบาลตำบลบึงบูรพ์ ต.บึงบูรพ์ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ โดยเน้นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 2,500 ราย ภายในงานนอกจากการจัดนิทรรศการแล้ว ยังมีการเสวนา การบรรยาย และการสาธิตเชิงปฏิบัติการ รวมทั้งกิจกรรมห้องเรียนเทคโนโลยีในหัวข้อต่างๆจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกร อาทิ โครงการ ABC Center , InnoAgri ให้อะไรกับคุณบ้าง การใช้แอปพลิเคชั่นทางการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ติดปีกธุรกิจให้กับเกษตรกร เกษตรกรไทยก้าวไกลด้วยเทคโนโลยี การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว ใครจะช่วยเหลือเกษตรกรบ้างยกมือขึ้น การบริหารจัดการน้ำชุมชน ดาวเทียม THEOS 2 กับการเกษตรไทย เครื่องลดความชื้นข้าวเปลือกระดับชุมชน มาตรฐานข้าวไทยฉบับปรับปรุงใหม่ การตรวจสอบมาตรฐานข้าวและผลิตภัณฑ์ การแปรรูปข้าว ข้าวฮางงอกกับข้างกล้องต่างกันอย่างไร การทำแชมพูจากข้าว การทำแพนเค้กข้าวกล้อง ข้างเคลือบสมุนไพร การทำซาลาเปา/ขนมขาไก่จากข้าว การผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
ทั้งนี้ โครงการ InnoAgri กำหนดจัดกิจกรรมครั้งต่อไปในระหว่างวันที่ 26-30 กรกฎาคม 2560 เวลา 08.30-17.00 น. ณ โรงเรียนสา ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน โดยมีเป้าหมายเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จำนวน 1,500 ราย เข้าร่วมกิจกรรม
ผู้แทนเกษตรกร ผู้แทนเครือข่ายสมาคม องค์กรชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรภาคประชาชน ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายประชารัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ ผู้ประกอบการกลุ่มชุมชน SMEs OTOP ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ได้ที่ องค์กรสภาเกษตรกรจังหวัด หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาในจังหวัดศรีสะเกษและน่าน หรือที่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เลขที่ 35 ม.3 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในวันและเวลาราชการ หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 577 9015 และ 02 577 9017 หรือที่ E-mail : innoagri@tistr.or.th