กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--เอบีเอ็ม
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพ โดยเฉพาะในภาคใต้ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกกาแฟโรบัสต้า ทว่าปริมาณผลผลิตกาแฟในประเทศกลับลดลง จากการสำรวจโดยเดอะ พับลิก เลดเจอร์ พบว่า ปัจจุบันความต้องการบริโภคกาแฟของนักดื่ม มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยตลอด 15 ปีที่ผ่านมา มีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นกว่า 30% ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู โดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟระดับโลก และผู้นำตลาดกาแฟปรุงสำเร็จที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 40 ปี จึงได้จัดแคมเปญ "กาแฟคุณภาพกับเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู" มอบต้นกล้ากาแฟพันธุ์ดีจำนวน 10,000 ต้น เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟชาวไทย พร้อมตอกย้ำให้คอกาแฟไทยมั่นใจในกาแฟคุณภาพที่ส่งตรงจากฟาร์มสู่แก้ว
แคมเปญ "กาแฟคุณภาพกับเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู" จัดขึ้น ณ แปลงทดสอบและสาธิตกาแฟโรบัสต้าในจังหวัดชุมพรซึ่งได้รับเกียรติจากผู้บริหารเนสกาแฟ นำทีมโดย นางสาวมุนินทร์ สุภานุรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกาแฟปรุงสำเร็จ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และ นายทาธฤษ กุณาศล ผู้จัดการฝ่ายบริการการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด พร้อมด้วย มิน พีชญา วัฒนามนตรี แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู และนายพยุงศักดิ์ จันทร์แสงกุล กำนันตำบลพังกาญจน์ มาร่วมกันมอบต้นกล้าแก่เกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเกิดจากความสำเร็จที่ชาวโซเชียลแชร์คลิปวีดีโอ 'ความลับกาแฟคุณภาพ' ในโลกออนไลน์ โดยทุกๆ 1 แชร์ เนสกาแฟจะมอบ 1 ต้นกล้าพันธุ์ดีให้กับเกษตรกรชาวใต้
ทีมนักวิชาการเกษตรของเนสกาแฟ พร้อมด้วยผู้บริหารและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ได้นำคณะเกษตรกรไปเยี่ยมชมและสัมผัสแปลงทดสอบและสาธิตกาแฟโรบัสต้า ควบคู่ไปกับให้ความรู้ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา รวมไปถึงเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการปลูกกาแฟให้มีคุณภาพอย่างครบวงจร โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกควบคู่การแลกเปลี่ยนความรู้แก่กันและกันในหมู่เกษตรกร จากนั้นจึงร่วมกันปลูกต้นกล้ากาแฟพันธุ์ดีให้เจริญเติบโตงอกงามต่อไป
นางสาวมุนินทร์ สุภานุรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกาแฟปรุงสำเร็จ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "แคมเปญ 'กาแฟคุณภาพกับเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู' มุ่งตอกย้ำจุดยืนของผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ผสมกาแฟคั่วบดละเอียด ในการเป็นผู้นำตลาดกาแฟปรุงสำเร็จในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ภายใต้โครงการ 'เนสกาแฟ แพลน' (NESCAFÉ Plan) ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกของเนสกาแฟที่มุ่งสร้างความยั่งยืนผ่านการเพาะปลูก การผลิต และการจัดหาเมล็ดกาแฟอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อพัฒนาชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟให้แข็งแกร่งและมีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืน ตามเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) โดยเราหวังว่าแคมเปญนี้จะจุดประกายให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟชาวไทย หันมาปลูกกาแฟโรบัสต้าคุณภาพมากขึ้น เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอนาคตของกาแฟไทย"
นายทาธฤษ กุณาศล ผู้จัดการฝ่ายบริการการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "ต้นกล้ากาแฟทุกต้นที่นำมามอบให้กับเกษตรกรในวันนี้ เป็นสายพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี มีลักษณะการให้ผลผลิตสูง มีความต้านทานโรคและแมลง เหมาะสมกับการปลูกในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ตรงตามมาตรฐานที่เนสกาแฟกำหนดคือ มีลักษณะการเจริญเติบโตแข็งแรง มีความสูงอย่างน้อย 1 ฟุต ระบบรากตรง ปลอดโรคและแมลง โดยหลังจากนี้ นักวิชาการเกษตรของเนสท์เล่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ และส่งเสริมการปลูกให้ตรงตามหลักพื้นฐาน 4C (Common Code for Coffee Community) ที่มุ่งเน้นการผลิตเพื่อความยั่งยืนใน มิติทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ โดยนักวิชาการเกษตรของเรา จะเข้าไปทำงานกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอย่างใกล้ชิด และเรายังมีจุดรับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟโดยตรงจากเกษตรกร 4 แห่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรว่า พวกเขาจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากผลผลิตกาแฟคุณภาพที่ผลิตมาอย่างพิถีพิถัน"
นายพยุงศักดิ์ จันทร์แสงกุล กำนันตำบลพังกาญจน์ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า "ผมและเกษตรกรชาวพังกาญจน์ขอขอบคุณทางเนสกาแฟ ที่เห็นความสำคัญกับการเพาะปลูกกาแฟ หนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ ผมในฐานะคนที่คลุกคลีกับกาแฟมาตลอด เห็นพ่อและแม่ที่ปลูกกาแฟมาตั้งแต่ยังเด็ก จนมาถึงรุ่นของตัวเอง แม้ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเกษตรกรจำน้อยไม่น้อยที่หันหลังให้กับการปลูกกาแฟ แต่ด้วยคำสั่งเสียของพ่อแม่ว่าห้ามทิ้งกาแฟและด้วยความเชื่อมั่นว่ากาแฟจะสร้างรายได้ที่ดี ทำให้ผมและครอบครัวมีบ้านอยู่ มีรถยนต์ มีเงินไว้ใช้ขยายสวนสำหรับปลูกพืชต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือมีความสุขจากชีวิตและอนาคตที่ยั่งยืน เรียกได้ว่าผมมีทุกวันนี้เพราะกาแฟจริงๆ"
นายบุญหนัก วิเชียรวงศ์ อายุ 85 ปี เกษตรกรในตำบลพังกาญจน์ ผู้ปลูกกาแฟมาถึง 4 แผ่นดิน กล่าวว่า "ผมใช้ชีวิตอยู่กับปลูกกาแฟมานานมากตั้งแต่สมัยผมยังหนุ่ม ล้มลุกคลุกคลานกับกาแฟมาหลายครั้ง เคยพยายามลองปลูกกาแฟ หาวิธีหลายอย่างให้กาแฟขายได้ราคาดีๆ แต่ก็ไม่ได้ผล ช่วงหนึ่งก็ล้มเลิกไป จนวันหนึ่งได้ไปที่ตำบลพังกาญจน์ได้รู้จักกับลูกๆ ทีมจากเนสกาแฟพาลุงไปดูไร่ของหลานๆ ที่กาแฟออกผลเยอะ ขายได้ราคาดี และสอนให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกที่ถูกต้อง ลุงกับลูกก็กลับไปปลูกกาแฟตามที่แนะนำจนได้ผลผลิตดี ก็อยากฝากให้เกษตรกรหันมาปลูกกาแฟกันเยอะๆ จะได้มีกาแฟกินไปชั่วลูกหลานของเรา"
ติดตามติดตามแคมเปญกาแฟคุณภาพกับเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ได้ที่www.facebook.com/Nescafe.TH