กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--ปตท.สผ.
- หัวใจสำคัญของความมั่นคงพลังงานและเศรษฐกิจ ผลิตก๊าซธรรมชาติกว่า 30% ของที่ผลิตได้ในประเทศ และ สร้างรายได้ให้ประเทศแล้วกว่า 240,000 ล้านบาท
- ตั้งเป้าโครงการบงกชเป็นจุดเริ่มต้น และจะยังคงเป็นจุดต่อยอดความสามารถของไทย ในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน
- พร้อมเข้าร่วมการประมูลแหล่งบงกช สร้างความต่อเนื่องและความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศในอนาคต
นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยถึงความสำเร็จของโครงการบงกช ที่กำลังจะครบรอบการผลิต 24 ปี ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ว่า โครงการบงกชเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไทย และเป็นแหล่งพลังงานหลักที่มีความสำคัญของประเทศ เป็นจุดเริ่มต้นของไทยในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน และช่วยผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมให้แก่ประเทศไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
"ปตท.สผ. มุ่งพัฒนาศักยภาพของโครงการบงกชมากว่า 24 ปี นับจากวันแรกที่เริ่มผลิตก๊าซฯ ในปี 2536 ผลงานและความสำเร็จกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมาจึงเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความสามารถและความเชี่ยวชาญได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าประสบการณ์และความชำนาญในการสำรวจ พัฒนาและผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งบงกชที่ผ่านมาของเรา จะยังคงเป็นจุดต่อยอดความสามารถของคนไทยในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศไทยต่อไปในอนาคต"
โครงการบงกช...โรงเรียนต้นแบบของ ปตท.สผ.
โครงการบงกชเป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติโครงการแรกที่ ปตท.สผ. ในฐานะบริษัทคนไทยเป็นผู้ดำเนินการ จึงเปรียบเสมือนสถาบันที่พัฒนาศักยภาพบุคลากรของ ปตท.สผ. ให้ได้เรียนรู้การจัดการและกระบวนการในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จนสามารถขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศดังเช่นปัจจุบัน
ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงความสามารถของคนไทยในการดำเนินงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับบริษัทน้ำมันนานาชาติ จึงเรียกได้ว่าแหล่งบงกชเป็นรากฐานแห่งการพัฒนาองค์กรของ ปตท.สผ. และทำให้ ปตท.สผ. ก้าวขึ้นเป็นบริษัทพลังงานระดับภูมิภาคได้ในทุกวันนี้อย่างภาคภูมิ
มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางพลังงาน...ควบคู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
โครงการบงกชเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ประมาณ 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศ และคิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ภายในประเทศ อีกทั้งที่ผ่านมาโครงการบงกชสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศมากกว่า 240,000 ล้านบาท ในรูปของค่าภาคหลวงและภาษีต่างๆ รวมทั้งเงินสมทบในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากการที่โครงการบงกชกำลังจะหมดอายุสัมปทานในปี 2565 - 2566 นั้น ปตท.สผ. ในฐานะผู้ดำเนินการโครงการบงกชปัจจุบัน มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประมูลเพื่อเป็นผู้ดำเนินการในโครงการบงกชต่อไป เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศอย่างต่อเนื่อง
"เราเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ ความชำนาญ และความสำเร็จในการสำรวจ พัฒนา และผลิตก๊าซธรรมชาติตลอด 30 ปีที่ผ่านมาของ ปตท.สผ. จะทำให้ ปตท.สผ. สามารถดำเนินการในการผลิตก๊าซได้อย่างต่อเนื่องและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ" นายสมพรกล่าว