กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
เปิดกว้างนักลงทุนทั่วโลกรุกอุตสาหกรรมก่อสร้าง สถาปนิก และการออกแบบตกแต่ง สร้างอาชีพ และส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนคุณภาพสู่ตลาดต่อเนื่อง
ไอซีเว็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญการจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชั่นทุกรูปแบบ (Professional Exhibition Organizer) หลังจากเดินหน้าจัดเทรดแฟร์ครั้งที่ 2 กับงาน 'แคมโบเดีย อาร์คิเทค แอนด์ เดคคอว์ 2017' (Cambodia Architect & Decor 2017) ณ ประเทศกัมพูชา งานแสดงสินค้าที่เจาะลึกการออกแบบ ตกแต่ง และการดีไซน์โดยเฉพาะ เผยเป็นแหล่งโชว์เคสนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ตอบรับความต้องการด้านไลฟสไตล์ ของผู้บริโภคที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพ และความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เปิดกว้างดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกรุกอุตสาหกรรมก่อสร้าง และสถาปนิก เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดให้มีมาตรฐาน พร้อมผลักดัน และส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนคุณภาพ สร้างอาชีพที่มั่นคงต่อไป
เมื่อวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ตลาดประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน สิ่งที่โดดเด่น และน่าจับตามองที่สุด จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจากกลุ่มอุตสาหกรรมการก่อสร้าง (Construction) นับเป็นธุรกิจดาวรุ่งของนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการพัฒนาที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของหมู่บ้านจัดสรร วิลล่า แฟลต คอนโดมีเนียม รีสอร์ท ออฟฟิศ รีเทล และการพัฒนาในเขตพื้นที่อุตสาหกรรม ด้วยจำนวนโปรเจคการก่อสร้างสูงถึง 35,206 โปรเจค ที่กำลังจะทยอยเสร็จทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 32.2 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ และการคาดการณ์ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง จะเติบโตสูงถึง 9.8% ในปีนี้ ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกเข้ามาอย่างหลากหลาย และหนึ่งในนั้น คือ บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชั่นทุกรูปแบบ (Professional Exhibition Organizer) รองรับตลาดภาคธุรกิจสู่ธุรกิจในรูปแบบการตลาดผสานความคิดสร้างสรรค์แบบครบวงจร (Creative Marketing Solutions) หนึ่งในเครือธุรกิจสร้างสรรค์ ภายใต้บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน บริษัท ครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นท์ แม็กกาซีน ประเทศสหรัฐอเมริกา) หลังจากประเดิมจัดงาน เทรดแฟร์ แคมโบเดีย อาร์คิเทค แอนด์ เดคคอว์ (Cambodia Architect & Decor) ตั้งแต่ปี 2016 ณ ประเทศกัมพูชา เป็นงานแสดงสินค้าที่เจาะลึกการออกแบบ ตกแต่ง และการดีไซน์โดยเฉพาะ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากผู้แสดงสินค้า (Exhibitor) และผู้เข้าร่วมงาน (Visitor) นับเป็นจังหวะ และโอกาสที่ดีในการบุกตลาดกัมพูชาต่อเนื่อง สอดคล้องกับ นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ ทูตพาณิชย์ไทย ประจำกรุงพนมเปญ กล่าวว่า "ด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชาในปัจจุบันที่มีการเติบโตของจีดีพีสูงถึง 7.1% และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง เรียกว่ามีอัตราการเติบโตสูงที่สุดท่ามกลางประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคอนสตรัคชั่น ผนวกกับปัจจัยหลักเรื่องของนโยบายการเปิดเสรีทางการเศรษฐกิจ และการค้า ส่งเสริมการลงทุน และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ เกิดการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และมีความต้องการในสินค้า และบริการที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ประเภท โดยเฉพาะกับแบรนด์ไทยหลากหลายประเภท ซึ่งได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของคนกัมพูชา เนื่องด้วยวัฒนธรรม ความใกล้ชิด และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้สามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น"
ด้านกลุ่มบริษัทดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศกัมพูชา นางคิว ซาซิเลียบ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ออกิเด้ วิลล่า กล่าวว่า "ด้วยไลฟสไตล์ของชาวกัมพูชาที่เปลี่ยนแปลง ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความต้องการด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้านสภาพแวดล้อม และคอมมูนิตี้ ทั้งในด้านคุณภาพ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างมูลค่า และสุนทรียภาพการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนการลงทุนจากชาวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมเต็มความต้องการเหล่านี้ นับเป็นผลดีที่พิสูจน์ให้เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมืองของกัมพูชานั้นมีเสถียรภาพ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศกัมพูชามากขึ้น สร้างการแข่งขันให้แต่ละธุรกิจต้องคอยปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างมาตรฐาน และนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ล่าสุดทางออกิเด้มีโปรเจคที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง อาทิ โปรเจคหมู่บ้าน และคอนโดมีเนียม ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก จึงเดินหน้าลงทุนส่งโปรเจค 'Botanic City' มุ่งสร้างคอมมูนิตี้พื้นที่สีเขียวต่อเนื่อง
ด้านผู้ประกอบการ และผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ดังในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกโฮมมาร์ท (Home mart) รายใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชา นางเจีย คิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮง เอเซีย (ประเทศกัมพูชา) จำกัด กล่าวว่า "โดยปกติพฤติกรรมการจับจ่าย ใช้สอยของชาวกัมพูชา มีนิสัยชอบรับรองเพื่อน ครอบครัวที่บ้านตัวเอง จึงชอบดูแล และปรับปรุงที่อยู่อาศัยอยู่ตลอดเวลาให้มีความสวยงาม ประกอบกับเร็วๆ นี้ จะมีบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศไทยเข้ามาลงทุนในรูปแบบห้างสรรพสินค้า เชื่อว่าจะมีไม่มีผลกระทบกับร้านค้าเดิมที่มีอยู่ เพราะด้วยความนิยมชมชอบการใช้สินค้าของไทยเป็นทุนเดิม พร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และถ้าคู่ค้ามีความจริงใจในการทำธุรกิจร่วมกัน ไม่คิดเอาเปรียบก็จะสามารถดำเนินธุรกิจด้วยกันได้อย่างแน่นอน"
ด้านนายทาง โซเชียตวิตตู รองประธานสมาคมสถาปนิกแห่งกัมพูชา กล่าวว่า "ประเทศกัมพูชาขึ้นชื่อในเรื่องของศิลปะวัฒนธรรมที่มีความสวยงาม และความประณีต ดังนั้นการผสมผสานศิลปะ และวัฒนธรรมเดิมให้เข้ากับสมัยใหม่ จึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ โดยเริ่มต้นจากการบ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่ ด้วยรูปแบบการเทรนนิ่ง และการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 9 สถาบันหลัก ที่มุ่งเน้นในเรื่องของงานออกแบบต่างๆ มีจำนวนนักศึกษาคุณภาพจบใหม่กว่า 3,000 คน เข้าสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อย และอีก 700 กว่าคน ที่กำลังจะเข้าศึกษาต่อ เพื่อฝึกฝน และดึงศักยภาพออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการแข่งขันเข้มข้น และสร้างความแกร่งให้กับวงการสถาปนิก โดยคำถึงหลักของการใช้ความคิดสร้างสรรค์งานเป็นสำคัญ"
ด้านมุมมองของผู้จัดงานเทรดแฟร์ แคมโบเดีย อาร์คิเทค แอนด์เดคคอว์ 2017 นายอาจิณเวท วงศ์ทอง ผู้จัดการฝ่ายโครงการ บริษัท ไอซีเว็กซ์ กล่าวว่า "จากที่ได้เข้ามาสำรวจตลาดตั้งแต่ปี 2016 เล็งเห็นโอกาสเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่สนใจงานออกแบบ การดีไซน์ และการตกแต่งโดยเฉพาะ อาทิ กลุ่มสถาปนิก นักตกแต่งภายใน นักอสังหาริมทรัพย์ เทรดเดอร์ และผู้รับเหมาก่อสร้าง เพราะยังมีช่องว่างทางธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อีกมาก รวมถึงประโยชน์ที่ได้ทั้งจากผู้จัดแสดงสินค้า คือ โอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการทดลองสินค้า และบริการใหม่ๆ กับกลุ่มเป้าหมาย สร้างเน็ตเวิร์คกิ้งเครือข่าย การสานสัมพันธ์ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม สร้างโอกาสทางธุรกิจกับลูกค้าใหม่ เรียกว่าจะได้เจอกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงตามความต้องการ และแม่นยำมากขึ้นในช่วงระยะเวลาอันสั้น ในขณะเดียวกันประโยชน์ของผู้เข้าร่วมงาน นอกจากจะได้เห็นสินค้า และบริการใหม่ล่าสุดได้ที่งานเป็นที่แรกแล้ว ยังได้มีโอกาสได้เรียนรู้ และแชร์ประสบการณ์ในรูปแบบกิจกรรมสร้างสรรค์ อาทิ งานสัมมนา งานแข่งขันประกวดการออกแบบของนักศึกษา เป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างท่ามกลางงานเทรดแฟร์อื่นๆ โดยมีความตั้งใจที่จะสร้างรากฐานของ เทรดแฟร์ให้มีความแกร่ง เกิดเป็นคอมมูนิตี้แลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 กับการจัดงานแคมโบเดีย อาคิเทค แอนด์ เดคคอว์ ปี 2017 โดยได้รับการตอบรับที่ดี ด้วยจำนวนผู้จัดแสดงสินค้าคุณภาพทั้งจากแบรนด์โลคอล และต่างประเทศ มากกว่า 150 บริษัท อาทิ ประเทศไทย จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอิตาลี เป็นต้น และจำนวนผู้เข้าร่วมงานที่มากขึ้น นอกจากนี้ไอซีเว็กซ์ยังมีงานเทรดแฟร์ประจำที่ประเทศเมียนมาอีก 3 งานหลักประจำปี คือ งานเมียนมา ฟู้ด เบฟ 2017 (Myanmar FoodBev 2017) งานเทรดแฟร์ด้านอาหาร และเครื่องดื่มนานาชาติ ที่รวมผู้ประกอบการทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และงานเมียนมา รีเทล ซอสซิ่ง เอ็กซ์โป 2017 (Myanmar Retail Sourcing Expo 2017) สำหรับผู้ประกอบการค้าปลีกหลากหลายธุรกิจ จัดขึ้นในวันที่ 17-19 สิงหาคมนี้ ต่อด้วยงานเมียนมา บิวท์ แอนด์ เดคคอว์ 2017 (Myanmar Build & Decor 2017) ที่สุดของงานแสดงสินค้าประเภทวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง การตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมา จัดขึ้นในวันที่ 28-30 กันยายนนี้ มั่นใจเดินหน้าสร้างสรรค์งานเพื่อผู้ประกอบการ และผู้บริโภค สู่การขยายโอกาสทางธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง"