กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--กทม.
เมื่อวันที่(10 พ.ค. 48) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ เข้าพบผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยในเขตกทม.ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสและคณะได้นำข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหาหาบเร่แผงลอยและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยริมบาทวิถีให้มีความสมบูรณ์ ตลอดจนกฎเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ให้มีความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่จเรตำรวจแห่งชาติได้รวบรวมจากการลงตรวจพื้นที่ การรับฟังความคิดเห็น และสอบถามสภาพความเป็นจริงเกี่ยวกับปัญหาผู้มีอิทธิพล ตลอดจนแนวทางการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ใน 6 จุด ได้แก่ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณซอยอารีย์ ตลาดห้วยขวาง มีนบุรี รามคำแหง และบางซื่อ ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีปัญหาแตกต่างกัน อาทิ การใช้พื้นที่บริเวณอาคารไม่ถูกต้อง การต่อเติมโครงสร้างอาคาร กันสาด หรือผ้าพลาสติกบังแดดยื่นออกมาเกินกว่าพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต และเจ้าของอาคารพาณิชย์ใช้พื้นที่บริเวณหน้าอาคารซึ่งเป็นที่สาธารณะให้ผู้ค้าเช่าเพื่อตั้งวางแผงค้าหน้าอาคาร เป็นต้น ทั้งนี้ กทม.จะได้นำข้อเสนอ ดังกล่าวมาพิจารณาและดำเนินการตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยในเบื้องต้นจะตักเตือนเจ้าของอาคารเพื่อให้รื้อถอนในระยะที่กำหนด หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ กทม.จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำระบบภาษีเข้ามาใช้ในการจัดระเบียบผู้ค้าด้วย เนื่องจากมีผู้ค้าหลายรายใช้สิทธิในแผงค้าของตนให้ผู้ค้ารายอื่นเช่าขายแทน เป็นผู้มีรายได้แต่ไม่ได้เสียภาษีให้แก่รัฐ ซึ่งหากมีการพิจารณามาตรการทางภาษีเข้ามากำกับดูแล จะทำให้ควบคุมผู้ค้าได้ง่ายและทำให้การจัดระเบียบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ กทม.และคณะจเรตำรวจแห่งชาติ ยังมีความคิดเห็นตรงกันในการพิจารณาอนุญาตให้ทำการค้าบริเวณริมบาทวิถีด้านเดียว เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น สะอาด และเกิดความเป็นระเบียบมากขึ้น จากเดิมที่มีผู้ค้าตั้งวางแผงทั้งสองด้าน เว้นช่องกลางให้คนเดินสัญจรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากมี เจ้าหน้าที่เข้าไปส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งการละเลยในการตรวจสอบผู้ค้า และการอนุญาตให้ค้าขายบนผิวจราจร เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ โดยเฉพาะขณะนี้กทม. กำลังเดินหน้าจัดระเบียบผู้ค้าและตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ในส่วนการปราบปรามผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บผลประโยชน์ที่ตนรับผิดชอบนั้น ชุดปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและตำรวจนครบาลจะเร่งตรวจสอบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะลงพื้นที่ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ตนและคณะจะลงพื้นที่อีกครั้งบริเวณตลาดโบ๊เบ๊ในวันศุกร์นี้ด้วย--จบ--