กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จากกรณีสื่อออนไลน์ นำเสนอข่าวนักท่องเที่ยวชาวเบลเยี่ยม นางสาวเอลิเซ่ โซฟี วินซีน เอ็มมานูเอล เสียชีวิตบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้มีผลการยืนยันจากสถาบันนิติเวชถึงสาเหตุการเสียชีวิต และมีการดำเนินการติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ยังมีสื่อต่างประเทศตั้งฉายาเกาะเต่า "เกาะแห่งความตาย" อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตนไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการด่วนให้ พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวที่ยังคงเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน รวมถึงได้สั่งการให้ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี และกองมาตรฐานและกำกับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนได้สั่งการให้ นายสันติ ป่าหวาย รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงรับฟังและสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวกับประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการอีกด้วย
นายพงษ์ภาณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากรายงานของกรมการท่องเที่ยว สถิตินักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเฉลี่ยประมาณ 80,000 คนต่อเดือน ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวถึง 30,000 คน ที่เดินทางไปเที่ยวเกาะเต่า ซึ่งยังเป็นจำนวนปกติของนักท่องเที่ยวที่เดือนทางมาท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นของประเทศ โดยกระทรวงฯ ได้มีการประชาสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะมีการลงพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในโครงการประชาสัมพันธ์และเตือนภัยด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
"ภาพลักษณ์และความมั่นใจของนักท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่ายได้ร่วมมือทำงานกันอย่างเต็มที่ ผมยังเชื่อมั่นว่า เกาะเต่าก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือก เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย นายพงษ์ภาณุกล่าว"