กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
9 ม.เทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) จับมือ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ และสถาบันการศึกษา Waikato Institute of Technology (WINTEC) ของประเทศนิวซีแลนด์ และบริษัท Knowledge Plus Education Services จัดโครงการความร่วมมือ "การพัฒนาการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อของคณาจารย์กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล" ติวเข้มพัฒนาเทคนิคการเรียนการสอนด้านภาษาอังกฤษให้กับครูภาษาและครูสายวิชาชีพ โดยจัดฝึกอบรมในประเทศไทย 6 สัปดาห์ก่อนบินไปต่อยอดศึกษาเทคนิคและกระบวนการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาชั้นนำที่นิวซีแลนด์ เตรียมยกระดับหลักสูตรสายวิชาชีพของไทยเทียบชั้นสากล รองรับตลาดการศึกษาในกลุ่มอาเซียนพลัสตะวันออกกลาง และอาฟริกา ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงพร้อมมุ่งพัฒนาหลักสูตรเทคโนโลยีด้านอาหารและการเกษตรสอดรับการเป็นเมืองเกษตรกรรมของไทย
จากนโยบายใหม่ของรัฐบาลไทยในการพัฒนาแรงงานฝีมือที่มีทักษะเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ทางหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (ENZ) ได้เห็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านการศึกษาสายวิชาชีพกับ 9 ม.เทคโนโลยีราชมงคลของไทย ซึ่งมีวิทยาเขตอยู่กว่า 40 แห่งทั่วประเทศ ที่ส่วนใหญ่จะคล้ายกับสถาบันเทคโนโลยีของนิวซีแลนด์ จึงได้ร่วมจัดโครงการนี้ขึ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ได้เชิญคณะผู้บริหาร พร้อมคณาจารย์จาก 9 มทร. ของไทยไปศึกษาดูงาน ณ สถาบันการศึกษาชั้นนำของนิวซีแลนด์
ดร.สาธิต พุทธชัยยงค์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ (มทร.กรุงเทพ)เปิดเผยว่าการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะการเรียนรู้ในโลกกว้างจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง แต่ต้องยอมรับว่าภาษาอังกฤษของเรายังเป็นอุปสรรคอยู่ทั้งที่ความรู้ความสามารถของครูไทยและเด็กไทยนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศอื่น มทร.กรุงเทพจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาษาอังกฤษทั้งในส่วนของครู และนักศึกษา
"การไปศึกษาดูงานที่นิวซีแลนด์ในครั้งนี้ได้เรียนรู้เทคนิคหลายอย่าง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่านิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูงอันดับต้นๆ ของโลกและใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง มีความโดดเด่นทางด้านหลักสูตรการเรียนการสอน ทำให้เราเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการศึกษาและสาขาวิชาของนิวซีแลนด์อย่างแท้จริงและทำให้เห็นขบวนการและสภาพแวดล้อมการเรียนรู้จริงที่เป็นประโยชน์ กระตุ้นให้นักเรียนได้เรียนรู้แบบบูรณาการมากขึ้น เรามุ่งเน้นเยี่ยมชมทักษะและนวัตกรรมในห้องเรียนที่สถาบันการศึกษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Auckland, Unitec, สถาบันการบินแอร์นิวซีแลนด์, Wintec, สถาบันเทคโนโลยีเวลลิงตัน, สถาบันเทคโนโลยี Whitireia, มหาวิทยาลัย Massey, โอทาโก โพลีเทคนิค และศูนย์ภาษามหาวิทยาลัยโอทาโก"
ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ให้ความเห็นว่านิวซีแลนด์เป็นประเทศเล็กๆ ที่มีการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา นิวซีแลนด์ถือเป็นจุดหมายแห่งการศึกษาอย่างแท้จริงการได้ไปดูงานที่นิวซีแลนด์ถือว่าประโยชน์ต่อองค์กร ซึ่งในส่วนของมทร.อีสาน ต้องการเปิดหลักสูตรวิชาชีพภาคภาษาอังกฤษเพื่อรองรับนักศึกษาจากกลุ่มอาเซียน
พลัส คือ ลาว พม่า เวียดนาม และรวมไปถึงตะวันออกกลาง และกลุ่มอาฟริกาด้วยฉะนั้นเราต้องมุ่งพัฒนาครูวิชาชีพให้เก่งภาษา โดยเฉพาะครูผู้สอนเทคโนโลยีทางด้านการเกษตร เพื่อยกระดับการเกษตรของภาคอีสาน ซึ่งเราต้องการเน้นให้ภาคอีสานเป็นศูนย์กลางทางด้านอาหารของประเทศ
"การศึกษาของนิวซีแลนด์จะยึดการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นศูนย์กลางจริงๆ และจะเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติเยอะซึ่งผมคาดหวังว่าคณาจารย์ที่ไปอบรมที่นิวซีแลนด์ครั้งนี้ จะกลับมาพัฒนาต่อยอดและเป็นกลุ่มตั้งต้นที่จะเป็นกำลังสำคัญในการวางระบบการศึกษาในกลุ่มราชมงคลของเราต่อไปซึ่งราชมงคลเป็นฐานวิชาชีพที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีนักเรียนอยู่มากกว่า 3 แสนคนใน 9 ราชมงคล ได้แก่ มทร.กรุงเทพ มทร.ธัญบุรี
มทร.ตะวันออก มทร.พระนคร มทร.รัตนโกสินทร์ มทร.ล้านนา มทร.ศรีวิชัย มทร.สุวรรณภูมิ และมทร.อีสาน" ผศ.ดร.วิโรจน์ กล่าว
อ.มารุต เขียวแก่ จากคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มทร.กรุงเทพ หนึ่งในคณาจารย์ผู้เข้าร่วมโครงการอบรมฯ กล่าวว่า ตนเป็นอาจารย์สอนเกี่ยวกับโลหะอุตสาหกรรม และวัสดุทางวิศวกรรม การเดินทางไปศึกษางานที่นิวซีแลนด์ในครั้งนี้ตั้งใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์และซึมซับเทคนิคต่างๆ ทั้งแผน กลยุทธ์และแนวการสอนนำมาวิเคราะห์ เพื่อนำมาบอกต่อให้กับครูด้วยกันเอง และนำมาใช้กับนักศึกษาบ้านเรา เพื่อการพัฒนาด้านการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้า ปรับแผนให้ระบบการศึกษาของเราเท่าทันเทคโนโลยีและสมัยนิยม แม้ว่าผมจะเป็นครูที่สอนทางช่างแต่ภาษาอังกฤษก็สำคัญเพราะเป็นภาษาสากล ที่ทำให้เข้าถึงประเทศต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ภาษาอังกฤษก็จะเป็นใบเบิกทางให้กับเราได้ในการศึกษาภาษาอื่นๆ ต่อไป
ดร.สุภาวดี มอส จาก มทร.สุวรรณภูมิ (ผู้สอนด้านบัญชี ภาคภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า โครงการนี้แตกต่างจากโครงการสอนภาษาอังกฤษอื่นๆ ที่เคยไปเข้าร่วมมาที่เน้นสอนภาษาอังกฤษอย่างเดียว ไม่เคยมีโครงการไหนที่เน้นด้านกลยุทธ์ในการสอนให้น่าสนใจ เพื่อนำไปสอนต่อให้กับนักเรียนหรือนักศึกษาเลย ซึ่งการไปศึกษาเทคนิคการสอนที่นิวซีแลนด์ครั้งนี้ สิ่งที่แตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือสภาพแวดล้อมและเทคนิค แนวการสอนและวิธีการใช้ชีวิตที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการศึกษาแบบ 100%
โครงการในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้น ด้านการพัฒนาการศึกษาที่ดี ที่จะสามารถนำความรู้ด้าน ทักษะ นวัตกรรมการศึกษา และวัฒนธรรมมาปรับใช้ในการศึกษาของประเทศไทย ในการสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้มีสภาพแวดล้อมที่จะสามารถกระตุ้นให้นักศึกษามีความสนใจในการเรียนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับอาชีพของตัวเองได้ในอนาคต