กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เมื่อเร็วๆนี้ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างรายงานเกี่ยวกับมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 2-12 กรกฎาคม 2560 ณ เมืองคราคูฟ (Krakow) สาธารณรัฐโปแลนด์ ซึ่งมีจำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องแรก การบรรจุวาระเสนอพระธาตุพนม กลุ่มสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 41 เพื่อพิจารณาให้การรับรองอย่างเป็นทางการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่สอง เป็นการรายงานเกี่ยวกับสถานภาพการอนุรักษ์นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งวธ. ได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติฯว่า เมื่อเร็วๆ นี้องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) มีหนังสือตอบกลับยังมาไทยหลังจากที่ไทยรายงานสถานภาพการอนุรักษ์นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาต่อคณะกรรมการมรดกโลกตามข้อกำหนดของยูเนสโก เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่ามีความพึงพอใจที่ไทยดำเนินการตามคำแนะนำต่างๆ อาทิ การอบรมเพื่อพัฒนาความสามารถของช่างฝีมือพื้นถิ่นที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมอนุรักษ์ และจัดสัมมนานาชาติเรื่อง (การอนุรักษ์) โบราณสถานอิฐ อีกทั้งได้ชื่นชมที่ไทยกระตือรือร้นในการปกป้องคุณค่าความเป็นสากลของนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมรดกโลก ขอความร่วมมือประเทศไทย ให้นำเสนอความก้าวหน้าในการดำเนินงานที่สำเร็จแล้วตามแผนแม่บทในการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ปี 2560-2561รวมทั้งโครงการบูรณะต่างๆ และโครงการที่ดำเนินการเพิ่มเติมในพื้นที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อีกทั้งให้ไทยเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปรับปรุงโครงการก่อสร้างอาคารของมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลในพื้นที่บริเวณรอบนอก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้กรมศิลปากรมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ก่อสร้างอาคารเหล่านี้แล้ว นอกจากนี้ ขอให้พัฒนายุทธศาสตร์ที่เป็นระบบเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและให้รวมไว้ในแผนแม่บทฯ รวมถึงแนะนำให้ไทยจัดทำแผนแม่บทในการอนุรักษ์ระยะ 10 ปีให้เสร็จสมบูรณ์ และนำเสนอรายงานสถานภาพการอนุรักษ์ต่อศูนย์มรดกโลกภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2561 เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมครั้งที่ 43 ปี 2561
นายวีระ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันวธ.ได้รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารสื่อการเรียนรู้พระราชวังหลวงแห่งกรุงศรีอยุธยา ภายในนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาต่อที่ประชุม ซึ่งขณะนี้ วธ. ได้ประสานขอข้อมูลและผลสรุปการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้วธ.จัดทำรายงานเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 41 ให้ได้รับทราบด้วย ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติฯ จะนำเสนอมติของที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอน เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกต่อไป