กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
บมจ. บี กริม เพาเวอร์ หนึ่งในผู้บุกเบิกการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ของไทย พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 19ก.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 40,669 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "BGRIM"
ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. บี. กริม เพาเวอร์ จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "BGRIM"
ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 นี้ โดย BGRIM ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทย่อย และบริษัทร่วมค้า ที่ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบัน BGRIM ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 28 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการลงทุน 920.1 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตไอน้ำ 219.7 ตันต่อชั่วโมง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม พลังงานความร้อนที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง และพลังงานแสงอาทิตย์ และมีโครงการโรงฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาโครงการอีก 15 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการลงทุน 549.7 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตไอน้ำ 109.8 ตันต่อชั่วโมง
BGRIM มีทุนชำระแล้ว 5,083.6 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,890 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 651.8 ล้านหุ้น (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แก่ผู้ลงทุนบุคคลทั่วไปในประเทศ และกรรมการและผู้บริหาร เมื่อวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2560 และผู้ลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ เมื่อวันที่11-13 กรกฎาคม 2560 ในราคาหุ้นละ 16.00 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 10,429 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 40,669 ล้านบาท โดยมี บล. กสิกรไทย บล. บัวหลวง และ บล. ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บี. กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจพลังงานให้เต็มศักยภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศผ่านการสร้างความมั่งคงทางด้านพลังงาน โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า SPP (Small Power Producer) และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
BGRIM มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายฮาราลด์ ลิงค์ ถือหุ้น 71.8% CIMB SECURITIES (SINGAPORE) PTE. LTD. ถือหุ้น 8.6% และ Deutsche Bank AG, Hong Kong Branch ถือหุ้น 3.9% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบัน (book building) โดยคิดอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 26.0-28.7 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2559 ถึงไตรมาส 1 ปี2560) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) ภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.58 บาท
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิปรับปรุง (กำไรสุทธิไม่รวมผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น) ตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ทุนสำรองต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และภาระผูกพันธ์ตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้