กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
แสนสิริชูประสบการณ์ Complete Your Living Experience "เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน" จับมือสมิติเวช เปิดตัว "Educational playground มากกว่าสนามเด็กเล่น" แห่งแรกในโครงการที่อยู่อาศัย พร้อมเชิญครอบครัวโอปอล์หมอโอ๊คและคุณแม่คนดังแชร์เคล็ดลับเสริมสร้างการเรียนรู้สมวัย
จากความมุ่งมั่นที่มาพร้อมกับ ทุ่มเทที่จะมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดี แสนสิริจึงนำด้วยกลยุทธ์ เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน (Complete Your Living Experience) บนความเชื่อว่า ดีไซน์ที่สวยงามต้องมาพร้อมกับประโยชน์การใช้งานได้จริง มาถ่ายทอดสู่แคมเปญ "Fill your life with good" หรือ "ใช้ชีวิตแต่กับสิ่งดีๆ" ด้วยการชู 6 ฟังก์ชั่นมัดใจกลุ่มลูกค้าหลากวัยหลายไลฟ์สไตล์ เปิดตัวด้วยไฮไลต์เด่น "Educational Playground มากกว่าสนามเด็กเล่น"ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในวงการที่อยู่อาศัยไทยที่มีสนามเด็กเล่นเพื่อการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง โดยในวันงานได้รับเกียรติจาก พญ. เสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก จากโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช พร้อมด้วยคุณพ่อคุณแม่คนดัง อาทิ คุณหมอโอ๊ค น.พ.สมิทธิ์ อารยะสกุล แพทย์ผิวหนังชื่อดัง ที่ควงแขนมากับครอบครัว คุณโอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล และลูกแฝด "น้องอลัน-น้องอลิน" ร่วมด้วยคุณแม่เซเล็บบริตี้ อาทิ คุณอุ๊ เจนนิส สินธวาชีวะ (โสภณพนิช) และ "คุณหญิงแอร์" ม.ร.ว. จันทรลัดดา ยุคล มาร่วมแชร์เคล็ดลับในการเลี้ยงลูกและการเลือกที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ในงานเปิดตัวแคมเปญ ณ แสนสิริ เลาจน์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
คุณอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ (จำกัด) มหาชน กล่าวว่า "เป็นที่ภาคภูมิใจว่าลูกค้าใหม่ ๆ ของเราหลาย ๆ คนที่เพิ่งซื้อโครงการ คือกลุ่มคนที่เติบโตมาในโครงการแสนสิริ เมื่อมีครอบครัวของตนเองก็ยังอยากจะอยู่ในโครงการที่พัฒนาโดยบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่คุ้นเคย มีมาตรฐาน แต่กลุ่มคุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่มีความรู้ใหม่ ๆ ในโลกโซเชียลที่ทำให้พวกเขาใส่ใจกับพัฒนาการของเด็กมากขึ้น ทำให้มักพาลูกไปทำกิจกรรมนอกบ้านที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ ดังนั้นแสนสิริ ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านของลูกบ้าน จึงได้ร่วมกับทีม แสนสิริ ดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเมนท์ (DSD) ฉีกกรอบแนวคิดเดิมของสนามเด็กเล่นภายในโครงการที่อยู่อาศัย ให้เป็น "มากกว่าสนามเด็กเล่น" ประกอบกับแรงบันดาลใจจากสนามเด็กเล่นในโครงที่อยู่อาศัยในต่างประเทศที่มีการผนวกเอากิจกรรมต่างๆ ลงไปไม่ได้มีเฉพาะแต่เครื่องเล่นเท่านั้น จึงนับว่าเป็นครั้งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีสนามเด็กเล่นฝึกทักษะและพัฒนาการเด็กทั้งร่างกาย การตัดสินใจ และการแก้ปัญหาในลักษณะนี้ตั้งอยู่ในโครงการที่พักอาศัย ในรูปแบบ Educational playground โดยมีโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช เป็นที่ปรึกษาในการออกแบบและแนะนำเรื่องการใช้วัสดุให้ปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันมีโครงการนำร่องอยู่ที่ โครงการคณาสิริ รังสิต คลองสอง, โครงการ เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า กาญจนา และโครงการ เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่จะตามมาอีกในอนาคต เช่น โครงการบุราสิริ วัชรพล และ โครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ 345 เป็นต้น"
พญ. เสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม จากโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช กล่าวว่า "การส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามช่วงวัยที่มีความต้องการในด้านพัฒนาการที่แตกต่างกันเป็นเรื่องสำคัญ โดยต้องคำนึงถึงพัฒนาการ 4 ด้านคือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก ภาษา และการเข้าสังคม อย่างเช่น วัย 1-2 ขวบ ที่เริ่มเดินได้เองแล้ว ควรเน้นพัฒนาด้านการเคลื่อนไหวให้เดินเยอะ ๆ หรือขึ้นลงบันไดด้วยการจับราวและพักเท้าทีละขั้น ช่วง 2-3 ขวบจะเป็นวัยที่ยืนด้วยขาข้างเดียวได้ ก็สามารถกระโดดอยู่กับที่ เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ ตอบคำถามได้ และโยนหรือเตะบอลได้แล้ว พอมาถึงวัย 3-4 ขวบ ให้เริ่มเล่นอะไรแบบคู่ขนานและเล่าเรื่องได้เป็นประโยคสั้น ๆ พอโตขึ้นมาเป็นวัย 5-6 ขวบ ให้ลองกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางเตี้ย ๆ ได้ จำแนกหมวดหมู่สิ่งของได้ และการเล่นที่มีกติกา พอเป็นวัย 6-10 ขวบ ให้เรียนรู้เรื่องตำแหน่งและทิศทาง รู้จักแก้ปัญหาและไตร่ตรองอย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น ฯลฯ
"ที่สำคัญพัฒนาการของเด็กจะเกิดขึ้นได้ผ่านการลงมือทำจริงอย่างเป็นประจำ คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นพันธมิตรในการสร้างพัฒนาการ ไม่ควรยับยั้งการเล่น ดังนั้นสนามเด็กเล่นภายในโครงการที่พักอาศัยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการเสริมสร้างทักษะรอบด้าน สำหรับแนวคิดการออกแบบเครื่องเล่นที่สมิติเวชได้สร้างสรรค์ร่วมกับแสนสิรินั้น เราเน้นให้เด็ก ๆ ได้ออกกำลังทางความคิดพร้อมเพิ่มพูนทักษะและไหวพริบในการตัดสินใจผ่านการฝึกก้าว ปีนป่าย การเขย่ง การกระโดด ที่สำคัญ นอกเหนือจากการเล่นในสนามเด็กเล่น คุณพ่อคุณแม่ต้องฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเอง และเปิดโอกาสให้เขามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ในบ้านพร้อมให้คำชี้แนะ รวมทั้งกำลังใจ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และเติบโตอย่างมีพัฒนาการ เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป"
ด้านคุณหมอโอ๊ค-น.พ.สมิทธิ์ อารยะสกุล และ คุณโอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล เผยว่า "พ่อแม่ย่อมคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่คำว่าดีที่สุดของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน แต่ก่อนเราสกรีนทุกอย่างเพราะน้องอลัน น้องอลิน คลอดก่อนกำหนด แต่หลังจากนั้นเราหยุดอ่านหนังสือหรือเพจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกทั้งหมด แล้วหยุดมีข้อจำกัดด้านการเล่นของลูก ทำให้พบว่าการให้ลูกเรียนรู้ผ่านการเล่นเป็นทางที่ทำให้พัฒนาการของลูกก้าวไปได้เร็วกว่าวัย จากเดิมที่เคยติดลบ เพราะเขาได้เรียนรู้ผ่านการเล่นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพอเห็นแสนสิริให้ความสำคัญกับทุกๆ รายละเอียด โดยเฉพาะล่าสุดการพัฒนาสนามเด็กเล่นเสริมสร้างพัฒนาการเด็กรอบด้านในโครงการเลยก็ดีใจมากเพราะเหมาะกับไลฟ์สไตล์พ่อแม่ที่ไม่มีเวลามาก ที่สำคัญด้วยความที่ผม (หมอโอ๊ค) ก็เป็นคุณหมอซึ่งทราบดีว่าการได้คุณหมอด้านพัฒนาการเด็กมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งจากสมิติเวชมาร่วมให้คำปรึกษากับแสนสิริในการพัฒนา Educational playground จะช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีตามวัยในช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานทั้งยังวางใจถึงเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกได้รู้จักกับเพื่อนบ้านที่อยู่ในโครงการเดียวกันอีกด้วย ฝึกการเรียนรู้ด้านการเข้าสังคมและรู้จักการแบ่งปัน ซึ่งช่วยพัฒนาในด้านอารมณ์และจิตใจไปได้อีกทาง"
ทางฝั่งคุณเจนนิส สินธวาชีวะ (โสภณพนิช) คุณแม่เซเลบที่ควงคู่ลูกแฝด "น้องจาณีนและน้องเจส" แชร์ว่า "ตอนนี้น้องจาณีนและน้องเจสเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง อุ๊ก็จะคอยส่งเสริมให้เค้าได้ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ เพื่อให้เค้าได้เติบโตและมีพัฒนาการสมวัย สำหรับพัฒนาการด้านร่างกายอุ๊จะเน้นให้เค้ารับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย ด้านพัฒนาการด้านอารมณ์ อุ๊จะสอนให้เขารู้จักเล่น รู้จักแบ่งปันสิ่งของกับเพื่อนๆที่โรงเรียน เพื่อให้เค้าอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข อารมณ์ดี มองโลกในแง่บวก"
ด้านคุณหญิงแอร์-ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกว่า "ตอนนี้น้องพร้อมกำลังอยู่ในวัยชอบเล่นซน จึงเน้นให้เค้าได้ออกกำลังกลางแจ้ง เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการด้านร่างกายให้แข็งแรงและอยากให้เค้าได้สัมผัสธรรมชาติ ไม่ได้เน้นการเรียนวิชาการอย่างเดียว รวมถึงให้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอีกด้วย การที่แสนสิริร่วมมือกับสมิติเวชเปิดตัว Educational Playground จึงตอบโจทย์ทั้งพ่อแม่เพราะได้ทั้งออกกำลังและพัฒนาสมองไปกับเกมส์ต่างๆที่สอดแทรกไปในสนามเด็กเล่นแห่งนี้ด้วย"
ทั้งนี้นอกจากสนามเด็กเล่นแห่งการเรียนรู้แล้ว ผู้ที่หลงใหลในสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ลงตัวในแต่ละไลฟ์สไตล์ ยังสามารถติดตามเรื่องราวการ "ใช้ชีวิตแต่กับสิ่งดีๆ" ภายใต้แคมเปญ "Fill your life with good" จากกลยุทธ์การตลาดปี 2017"เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน (Complete Your Living Experience)" ที่นำเสนอ 6 ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ได้แก่
Educational playground = มากกว่าสนามเด็กเล่นPanoramic view fitness = เป็นฟิตเนส เพื่อเพิ่มความสดชื่นCooliving designed home = เย็นสบายไม่ต้องเปิดแอร์Underwater music = เป็นทั้งสระน้ำ เป็นทั้งเวทีCo- Kitchen space = ครัวส่วนกลาง ที่ทำได้มากกว่าอาหารPrivate parking Space = เป็นบ้านของสิ่งที่ผมรัก
รับชมเรื่องราวที่บอกเล่าผ่านความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยจากประสบการณ์จริง พร้อมร่วมสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตบนที่อยู่อาศัยได้ที่www.sansiri.com