กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดตัวโครงการพัฒนา กปภ.สาขาดิจิทัล โดยจะนำร่อง 13 สาขา ในจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง รองรับการเปิดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ชูการบริการด้วย E-Service ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า ด้วยแนวคิดของรัฐบาลในการผลักดันวิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้ กปภ. ต้องเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถสนับสนุนองค์กรให้ก้าวเป็น PWA 4.0 รวมทั้งการปรับวิธีคิด วิธีการทำงานและกระบวนการทำงานทั้งระบบ กปภ. จึงริเริ่มโครงการพัฒนา กปภ.สาขาดิจิทัล โดยนำร่องด้านบริการลูกค้าในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ด้วยรูปแบบดิจิทัล เริ่มจากการปรับโฉม กปภ.สาขาในโครงการฯ ให้สามารถบริการประชาชนด้วยความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัยมากขึ้น อาทิ การขอติดตั้งประปา ขอฝากมาตรวัดน้ำ ขอย้ายสถานที่ใช้น้ำ ฯลฯ โดยลูกค้าใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวแทนการเรียกสำเนาเอกสาร หรือการชำระค่าน้ำประปาผ่านบัตรเครดิตและแอปพลิเคชั่นของตัวแทนพันธมิตรต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าในยุคดิจิทัล เช่น ทรู มันนี่ วอลเล็ท เอ็มเพย์ แอร์เพย์ อีซี่บิล เคาน์เตอร์เซอร์วิสเพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ กปภ. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาแอปพลิเคชั่น PWA 1662 ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและชำระค่าน้ำประปาได้ด้วยตนเองอย่างง่ายดาย โครงการ กปภ.สาขาดิจิทัล จะเริ่มให้บริการประชาชนได้ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ใน กปภ. 13 สาขา ได้แก่ กปภ.สาขาชลบุรี พัทยา บ้านบึง พนัสนิคม ศรีราชา แหลมฉบัง ฉะเชิงเทรา บางปะกง บางคล้า พนมสารคาม ระยอง บ้านฉาง และปากน้ำประแสร์
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. ในยุคไทยแลนด์ 4.0 จะต้องเป็นองค์กรที่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกาภิวัตน์และสามารถพัฒนาศักยภาพองค์กรได้ตามความคาดหวังของลูกค้า ทั้งด้านคุณภาพน้ำประปา ด้านการขยายเขตจำหน่ายน้ำประปา รวมถึงด้านการบริการ ซึ่ง กปภ. จะเร่งพัฒนา กปภ.สาขาดิจิทัล ให้ครบทั้ง 234 สาขาในปี 2562