กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--IR network
บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดกลยุทธ์ครึ่งหลังปี"60 ดันรายได้-กำไรเติบโตอย่างยั่งยืน เดินหน้าขยายกำลังการผลิตไก่แช่แข็งป้อนตลาดส่งออกทั้งในสหภาพยุโรป-ญี่ปุ่น-มาเลย์ฯ เต็มรูปแบบ หลังราคาในตลาดตปท.เพิ่มขึ้นกว่า 25% พร้อมขยับเป้ารายได้ตลาด "ฟู้ดส์ เซอร์วิส" เป็น 1 พันล้านบาท จากเดิมคาดอยู่ที่ 500 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่-โมเดิร์นเทรด ให้การตอบรับสินค้าอย่างดีเยี่ยม ลุยก่อสร้างโรงงานไก่ปรุงสุก บุกตลาดส่งออก คาดเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 2/2561 วางเป้ากวาดรายได้ปีละ 5.8 พันล้านบาท กำลังผลิตปีละ 2.5 หมื่นตัน
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า ตามกลยุทธ์การสร้างรายได้ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี 2559 บริษัทฯได้มีการปรับพอร์ตรายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของขนาดและความหลากหลายของลูกค้าปลายทาง เข้าสู่ตลาดที่มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น ประกอบด้วย ตลาดส่งออก ตลาดอุตสาหกรรม ตลาดฟู้ดส์เซอร์วิส เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาตลาด และขยายการขายอาหารสัตว์ต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงต้นทุนการผลิตครบวงจร การจัดการห่วงโซ่ต้นทุน รวมถึงต้นทุนการขาย การบริหาร และปัญหาโรคระบาดควบคู่กันไป
สำหรับตลาดส่งออกไก่แช่แข็ง ได้เร่งขยายการผลิตเข้าสู่ตลาดส่งออกเต็มรูปแบบ โดยในครึ่งหลัง ปีนี้ จะเร่งขยายการส่งไก่แช่แข็งเพื่อส่งออกทั้ง สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ให้ได้ตามเป้าหมายทั้งปี เป็นประมาณ 32,000ตัน เพิ่มขึ้น 33% จาก 24,000 ตันในปี 2559 เนื่องจากราคาเฉลี่ยไก่แช่แข็งในตลาดต่างประเทศในไตรมาส 3 และ 4ขยับสูงขึ้นกว่า 25% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ โดยบริษัทฯมีโรงงานผลิตเพื่อส่งออก 2 โรงงานที่กบินทร์บุรี และกาญจนบุรี โดยในปี 2561 มีเป้าหมายขยาย การผลิตและการขายส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีก
ส่วนตลาดอุตสาหกรรมที่ผู้ซื้อไก่แช่เย็น เข้าสู่กระบวนการผลิต เพื่อผลิตเป็นสินค้าไก่สุก ไก่แปรรูป เพื่อการส่งออกอีกต่อหนึ่งนั้น ปีนี้ ตลาดส่วนนี้มีการขยายขยายตัวได้ค่อนข้างดี มีคำสั่งซื้อต่อเนื่องและ สม่ำเสมอ ส่วนราคายังมีความอ่อนไหวน้อยกว่าราคาเฉลี่ยในประเทศ เนื่องจาก TFG เป็นผู้ผลิตเนื้อไก่รายใหญ่ และได้รับผลบวกจากการขยายการผลิต เพื่อส่งออกจากผู้ผลิตต่างประเทศหลายรายที่มีฐานการผลิตขนาดใหญ่อยู่ในประเทศไทย แต่ไม่มีโรงงานชำแหละไก่ และรอบเลี้ยงไก่ของตนเอง ในปีหน้าตลาดส่วนนี้จะขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากการขยายการผลิตโรงงานใหม่ของคู่ค้า
ขณะที่ตลาดฟู้ดส์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นตลาดใหม่ ที่บริษัทฯเพิ่งเข้ามาทำตลาด โดยต้องลงทุนผลิตเนื้อไก่ ชิ้นส่วนไก่ และสุกรชำแหละ ตามสเป็คของลูกค้า และส่งถึงที่ศูนย์กระจายสินค้า หรือ สาขาของลูกค้าโดยตรง ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายสูงขึ้น แต่ราคาที่ขายก็สูงขึ้นกว่า ราคาขายในประเทศทั่วไปมาก ทำให้มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้นมาก อีกทั้งมีความแน่นอนในการสั่งสินค้าสม่ำเสมอ ราคาจะไม่อ่อนไหวตามสภาพตลาดรวม
"เราได้มีการปรับเป้าหมายรายได้ในส่วนของตลาดฟู้ดส์ เซอร์วิส ในปีนี้เพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 500 ล้านบาท เนื่องจากมีทั้งปริมาณและประเภทสินค้ามากขึ้น ครอบคลุม ไก่ หมู ไส้กรอก และมีลูกค้าใหม่ขนาดใหญ่จำนวนมาก เช่น สายการบิน กลุ่มเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ อีกทั้งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากโมเดิร์นเทรดที่ขยายสาขาขนาดย่อมเข้าสู่ตลาดชุมชนที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง มีการซื้อปริมาณมากทั้งสินค้าไก่ และสุกร ทำให้แบรนด์ TFG เป็นที่รู้จักของลูกค้าในฐานะผู้ผลิตด้วย อีกทั้งบริษัทฯ ได้เพิ่มสินค้าพร้อมใช้ เช่น ไส้กรอก เข้าสู่ตลาดนี้ และ ตลาด HORECA (Hotel Restaurant and Cafe and Catering) อีกช่องทางหนึ่งด้วย"นายเชิดศักดิ์กล่าว
ในอีกตลาดหนึ่งที่จะสร้างกำไรขั้นต้นได้สูงขึ้น คือ ตลาดไก่ปรุงสุกเพื่อการส่งออก ขณะนี้บริษัทฯ กำลังก่อสร้างโรงงานไก่ปรุงสุก เพื่อการส่งออก ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 2 ปี 2661 โดยมีเป้าหมายการผลิตปีละ 25,000ตัน เป้าหมายรายได้ 5,800 ล้านบาท ประเมินที่ราคาสินค้าปัจจุบันจากการขายเต็มกำลังการผลิตเต็มปี ส่วนนี้เป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะขนาดตลาดไก่ปรุงสุก มีปริมาณขนาดใหญ่มากกว่าสองเท่าของตลาดส่งออกไก่แช่แข็ง โดยบริษัทฯมีแผนงานที่จะขยายการเลี้ยงไก่ และเพิ่มโรงชำแหละไก่ เพื่อรองรับการผลิตสินค้าเพื่อตลาดนี้โดยเฉพาะ พร้อมกับควบคุมคุณภาพมาตรฐานส่งออกจากต้นทางถึงปลายทาง
ส่วนตลาด อาหารสัตว์ เป็นตลาดที่ยังเติบโตได้ และสร้างกำไรได้ต่อเนื่อง ในปีนี้ น่าจะมียอดขายให้กับลูกค้านอกเครือ ซึ่งเป็นเอเย่นต์การขาย และฟาร์มขนาดใหญ่ได้ มากกว่า 25% ของรายได้เมื่อปีที่แล้ว และเพิ่มการขายอาหารสัตว์ให้กับบริษัทในเครือ เช่น บริษัท บิ้กฟู้ดส์ ซึ่งมีรอบเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ และกำลังขยายฟาร์มไก่ของบริษัทฯเพิ่มอีกฟาร์มหนึ่ง เพื่อป้อนโรงชำแหละเพิ่มจาก 40,000 ตัวต่อวัน เป็นสองเท่าภายในปลายปีนี้ รวมถึงการขายอาหารสัตว์ให้กับเกษตรกร รายย่อยที่เลี้ยงไก่ และสุกร กับกลุ่มบริษัทไทยฟู้ดส์ ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการย้ายเล้าเลี้ยงไก่และสุกร เข้ามาในกลุ่มเป็นจำนวนมาก และได้ผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ