อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน (Vertigo)

ข่าวทั่วไป Monday July 24, 2017 13:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--โรงพยาบาลวิภาวดี อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน (Vertigo) -เป็นอาการเวียนศีรษะประเภทหนึ่งที่มักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันผู้ป่วยจะรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนไป ทั้งๆที่จริงแล้วตนเองอยู่กับที่และไม่มีการเคลื่อนไหว สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบได้บ่อย คือ –ความผิดปกติของระบบประสาทในส่วนก้านสมองและสมองน้อย -ความผิดปกติของอวัยวะการทรงตัวในหูชั้นใน 1.โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (BPPV benign paroxysmal positional vertigo) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการเวียนศีรษะเกิดจากหินปูนขนาดเล็กหลุดไปอุดผิดที่ในท่อครึ่งวงกลม จึงทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะเวลาก้มตัวลงนอนหรือจากท่านอนลุกขึ้นนั่ง หรือการก้มแล้วเงย ส่วนใหญ่อาการเป็นไม่ถึงนาทีแล้วหายและเป็นซ้ำเวลาเปลี่ยนท่าทางอีก เกิดได้จากทั้งสมองขาดเลือดหรือเลือดออกในสมอง โดยเฉพาะบริเวณก้านสมอง,สมองน้อย 2.โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) พบในผู้สูงอายุ มากกว่า 45 ปี ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (ความดัน,เบาหวาน,ไขมันในเลือดสูง) โดยอาการเวียนศีรษะมักเป็นอยู่นาน อาจนานหลายชั่วโมงหรือเป็นวันก็ได้ อาการเวียนศีรษะไม่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทาง และมักพบร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆของระบบประสาท เช่น ตามองเห็นภาพซ้อน,หน้าเบี้ยว,พูดไม่ชัด,ลิ้นแข็ง,อ่อนแรง หรือชาครึ่งซีก) เนื่องจากอัตราการทุพลภาพและอัตราการตายสูงจึงควรรีบพบแพทย์ 3.โรคเวียนศีรษะจากน้ำในหูชั้นในผิดปกติ (Meniere's disease) อาการเวียนศีรษะเป็นพักๆนานหลายนาทีจนถึงเป็นชั่วโมงมักมีเสียงดังในหูข้างใดข้างหนึ่ง (บางรายเป็นทั้ง 2 ข้าง) ต่อมาอาจมีปัญหาการได้ยินลดลง สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด บางรายพบร่วมกับการติดเชื้อในหูชั้นกลาง การรับประทานเค็มมากกระตุ้นให้อาการเป็นมากได้ 4.เส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ (Vestibular neuritis) อาการเวียนศีรษะมักนานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันๆ อาจมีได้แต่ต้องไม่มีปัญหาการได้ยินหรือเสียงดังในหู เชื่อว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสโดยตรงต่อเส้นประสาทหรือเป็นจากการแพ้ภูมิตัวเองพบในคนอายุน้อย เพศหญิงพบได้บ่อยกว่าเพศชาย โรคนี้ทำให้ปวดศีรษะเป็นๆ หายๆ ได้ 5.โรคไมเกรน (Migraine) บางรายมีอาการเวียนศีรษะร่วมด้วย บางรายมีอาการเวียนศีรษะอย่างเดียวเป็นๆหายๆ โดยไม่มีอาการปวดศีรษะก็ได้ ปัจจัยกระตุ้น เช่น อาหาร,การดื่มกาแฟปริมาณมากหรือหยุดดื่ม,แสงจ้า,กลิ่นฉุน,การมีประจำเดือน อาการเวียนศีรษะที่ต้องปรึกษาแพทย์ -อาการเวียนศีรษะร่วมกับตาเห็นภาพซ้อน -อาการเวียนศีรษะร่วมกับอ่อนแรงแขนขา -อาการเวียนศีรษะร่วมกับชาแขนขา -อาการเวียนศีรษะร่วมกับพูดลำบาก -อาการเวียนศีรษะร่วมกับมีปัญหาเรื่องการได้ยิน การตรวจวินิจฉัย 1.ตรวจการได้ยิน (audiogram) 2.ตรวจการทำงานของอวัยวะทรงตัวของหูชั้นใน (Video electronystagmography :VNG) 3.ตรวจวัดแรงดันของน้ำในหูชั้นใน (electrocochleography : ECOG) 4.ตรวจการทำงานของเส้นประสาทการได้ยิน(Evoked response audiometry ) 5.ตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ( CT scan) 6.ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมองและเส้นเลือดสมอง (MRI brain and MRA)ซึ่งสามารถถ่ายภาพบริเวณก้านสมองและสมองส่วนหลังได้ชัดเจน (brainstem and carebellum) ซึ่งเป็นส่วนที่ (CT scan)ให้รายละเอียดได้ไม่ชัดเจน การดูแลและปฏิบัติตัวเบื้องต้นในผู้ที่มีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน 1.หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะระหว่างเกิดอาการ เช่น –การเปลี่ยนแปลงท่าทางอย่างรวดเร็ว -การหันศีรษะเร็วๆ -หลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือขณะอยู่ในยานพาหนะ 2.ไม่ควรอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การขับขี่ยานพาหนะในขณะที่มีอาการ 3.รับประทานยาลดอาการเวียนศีรษะ เช่น Betahistine ,Dimenhydrinate เป็นต้น 4.หลีกเลี่ยง ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ, ความเครียด, กลิ่นฉุน,สารก่อภูมิแพ้ 5.ลดปริมาณหรืองดการสูบบุหรี่/ดื่มกาแฟ 6.ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบมาพบแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สมองและระบบประสาท รพ.วิภาวดี โทร.02561-1111 ต่อ 1214
แท็ก สมอง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ