กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน)' หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) มองแนวโน้มครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจสดใส เชื่อกำลังซื้อฟื้นจากการลงทุนภาครัฐและเอกชน หนุนผลงานทั้งปีเติบโต 25-30% ตามการขยายตัวของพอร์ตจำนวนรถยนต์ให้เช่าและฐานลูกค้าที่ใช้บริการรถยนต์ให้เช่าเพิ่มขึ้น
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ asap(เอแซ็ป) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าบริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากแนวโน้มครึ่งปีหลังอุตสาหกรรมธุรกิจรถยนต์ให้เช่าของไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมของกำลังซื้อเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบกับกระแสของเทรนด์ outsource ในไทยได้ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโดยรวม ทำให้ปริมาณความต้องการรถยนต์ให้เช่าในไทยจะขยายตัวได้มากกว่า 50% ได้ในอนาคต จากที่ผ่านมาที่มีสัดส่วนการใช้บริการเพียง 10% เท่านั้น
สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการรถยนต์ให้เช่าทั้งระยะยาว ระยะสั้น และรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ โดยมีแผนทยอยปรับเพิ่มปริมาณจำนวนรถยนต์ให้เช่าในปีนี้เพิ่มขึ้น 20-30% เพื่อรองรับแผนดำเนินงาน จากปัจจุบันที่มีจำนวนรถยนต์ให้เช่ากว่า 10,000 คัน เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่มีจำนวนรถยนต์ให้เช่าประมาณ 8,400 คัน โดยบริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มรถยนต์ให้เช่าระยะยาวไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้รับความสนใจจากลูกค้าหลายรายที่จะเข้ามาใช้บริการ ส่งผลดีต่อการสร้างความสม่ำเสมอของรายได้ให้แก่บริษัทฯ ที่ดียิ่งขึ้น
ขณะที่รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าระยะยาวพร้อมคนขับนั้น จะขยายตัวได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น ที่บริษัทฯ ได้เพิ่มจุดให้บริการเปิดเคาน์เตอร์ตามสนามบินที่อยู่ภายใต้สำนักงานการบินพลเรือน ล่าสุด ได้เข้าไปเปิดเคาน์เตอร์ที่สนามบินอู่ตะเภา รองรับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวในโซนตะวันออก และการลงทุนในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นมากขึ้น จากเดิมที่เปิดให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในพื้นที่การท่าอากาศยานไทยหรือ AOT ทั้ง 6แห่ง ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่ สนามบินเชียงรายและสนามบินหาดใหญ่
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์มือสองซึ่งส่งผลต่อราคาจำหน่ายรถยนต์มือสองในตลาดที่ดีขึ้นตามไปด้วย ทำให้ asap สามารถจำหน่ายรถยนต์ให้เช่าที่ครบสัญญา ซึ่งยังมีคุณภาพที่ดี สามารถทำราคาขายและกำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นและช่วยสนับสนุนการผลการดำเนินงานเติบโตที่ดีให้แก่บริษัทฯ
"เราเชื่อว่าในปีนี้ รายได้ของเราจะเติบโต 25-30% ได้ตามแผน เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 1,400 ล้านบาท โดยมีปัจจัยจากศักยภาพการดำเนินธุรกิจในด้านการให้บริการรถยนต์ให้เช่าของ asap ที่มีจำนวนรถยนต์ให้เช่าพร้อมให้บริการที่เพิ่มขึ้นทุก ไตรมาส สอดรับกับแผนงานการขยายธุรกิจทุกกลุ่มทั้งระยะยาว ระยะสั้น และให้เช่าพร้อมคนขับ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการผลักดันรายได้ของเราให้เติบโตได้ตามแผนงานที่วางไว้" นายทรงวิทย์ กล่าว